จากกรณี วันที่ 27 ธ.ค.2564 เฟซบุ๊กแฟนเพจ วารินชำราบบ้านเฮา มีการเผยแพร่เอกสารรายงานของเขตตรวจสุขภาพที่ 10 จ.อุบลราชธานี ระบุว่า ชายชาวออสเตรเลีย อายุ 49 ปี อาชีพเป็นพนักงานบริษัท เดินทางมาจากประเทศของตนเองเข้าประเทศไทยในรูปแบบ Test&Go เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. โดยไม่ต้องกักตัวและได้รับการตรวจหาเชื้อเมื่อเดินทางมาถึงที่สนามบิน ไม่พบมีการติดเชื้อโควิด 19
จึงพักอยู่กรุงเทพฯช่วงหนึ่ง ก่อนเดินทางด้วยสายการบินภายในประเทศมาลงที่ จ.อุบลราชธานี และต่อรถไปหาแฟนสาวที่ อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ โดยพักอยู่กับแฟนสาว มีการพบปะเพื่อนฝูงทั้งที่บ้านแฟนสาวและที่ จ.อุบลราชธานี 10 คน ต่อมามีอาการไม่สบาย วันที่ 21 ธ.ค. จึงมาขอรับการตรวจเชื้อด้วยระบบ RT-PCR ที่โรงพยาบาลเอกชนใน อ.เมืองอุบลราชธานี ผลติดเชื้อโควิด 19
จึงถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาในห้องความดันลบโรงพยาบาล 50 พรรษามหาวชิราลงกรณ และโรงพยาบาลได้ส่งตัวอย่างเชื้อไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ของจังหวัดอุบลราชธานี และกรุงเทพฯ วันที่ 23 ธ.ค. ยืนยันเป็นสายพันธุ์โอมิครอน จึงให้ผู้ใกล้ชิด 10 คน เข้ารับการตรวจหาเชื้อด้วย RT-PCR ผลเป็นลบ แต่ได้สั่งกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมดไว้ก่อน
ส่วนผู้โดยสาร 23 คน ที่เดินทางด้วยเครื่องบินมาพร้อมกับผู้ป่วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้ประสานแจ้งให้ผู้โดยสารทั้งหมดที่ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำสังเกตอาการและเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ทุกคน ทำให้ยังไม่มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่จากชายชาวออสเตรเลียที่ติดเชื้อโอมิครอนรายนี้ ซึ่งความคืบหน้าทั้งหมดกระทรวงสาธารณสุข และ ศบค.ส่วนกลางจะเป็นผู้แถลงอย่างเป็นทางการต่อไป