ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 แฟนบอลไทยรอชมนัดชิงได้เลยหลังจากที่ ทัพช้างศึกเล่นได้อย่างรัดกุม ซึ่งแม้จะระเบิดสกอร์ไม่ได้ แต่ก็ไม่เสียประตูให้กับอีกฝ่ายจนผลออกมา ไทย เสมอ เวียดนามไป 0-0 และผลสกอร์รวมเป็นไทยที่ผ่านตัดเชือกกับ อินโดนีเซีย ในวันที่ 29 ธันวาคม และ 1 มกราคมนี้
ถึงแม้เกมรอบรองชนะเลิศทั้ง 2 นัดจะจบลงไปแล้ว และผลเป็น ทีมชาติไทยได้ไปต่อ โดยเขี่ยเวียดนามของ ปาร์ค ฮัง-ซอ (พัค ฮัง ซอ) โค้ชเวียดนามชาวเกาหลีใต้ตกรอบอดป้องกันแชมป์ ซึ่งดูท่าว่าแฟนบอลเวียดนามในโลกออนไลน์จะยังไม่ยอมจบกันง่ายๆ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาได้ไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากบนโลกออนไลน์ผ่านเพจหลักของสหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม
โดยส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่ประเด็นของนักเตะเวียดนามที่มีอาการเหนื่อยล้า เพราะเป็นชาติเดียวในอาเซียนที่เล่นฟุตบอลโลก รอบ 12 ทีมสุดท้าย นอกจากนี้ยังพอใจที่พวกเขาเล่นบอลได้ใสสะอาดมากกว่า แม้สุดท้ายจะตกรอบไปแบบคาดไม่ถึงก็ตาม ขณะที่บางคอมเม้นต์ระบุว่า ทีมไทยโกหกตัวเอง บางคอมเม้นต์ได้ระบุว่าไม่เสียใจเพราะนักเตะสู้เต็มที่แบบใสสะอาดและแพ้อย่างสง่างาม
-ช็อตหลังเกมอย่างเดือด แข้งเวียดนามหัวร้อนไม่จบ ปรี่เข้าหา อุ้ม ธีราทร ดูเอาเองใครกันแน่ที่อยากมีเรื่อง
-"มาดามแป้ง" เผยยอดเงินอัดฉีด นักฟุตบอลทีมชาติไทย หากไทยคว้าเเชมป์
-เจ ชนาธิป เปิดใจ หลังรับมอบอัดฉีด10 ล้าน จากบิ๊กอ๊อด
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายๆ ความคิดเห็นอื่นๆ อาทิ ทีมชาติไทย เข้ารอบได้ไม่ใช่ผลงานที่เพอร์เฟค แต่เป็นการเล่นสกปรกตั้งแต่เกมแรก อีกทั้งยังบอกว่า การเข้ารอบชิงเหมือนพวกเขาโกหกตัวเองอยู่ บ้างก็บอกว่า แข้งไทยต้องจ่ายเงินแพงๆ ซื้อกรรมการ ผิดกับเวียดนามที่คือแชมป์ในหัวใจของแฟนบอลอย่างสุดยอด ยืดอกเป็นชาติเดียวในอาเซียนที่เล่นรอบ 12 ทีมคัดบอลโลกหนนี้ จึงทำให้ผู้เล่นอาจเหนื่อยล้ามากกว่าชาติอื่น
ทั้งนี้ความคิดเห็นของชาวเน็ตบางส่วนยังได้ระบุว่า "เวียดนามเสียเปรียบกว่าทุกทีม ที่ต้องไปเล่นฟุตบอลโลก รอบ 3 ทำให้ผู้เล่นเรามีอาการเหนื่อยล้า และอาการบาดเจ็บ หวังว่าครั้งหน้าเราจะกลับมาเอาคืน เวียดนามคือระดับเล่นฟุตบอลโลกรอบ 3 เรายังดีกว่าไทย เอาเป็นว่าวันที่ 1 ม.ค.65 เราจะชนะจีนให้ได้ แม้ว่าจะแพ้แต่ก็ยังภูมิใจในเบอร์หนึ่งอาเซียนของเวียดนาม เรามาเตรียมพร้อมสําหรับฟุตบอลโลก รอบที่ 3 กันดีกว่า"
อย่างไรก็ตาม สำหรับนัดชิงชนะเลิศทั้งสองนัดจะมีขึ้นในวันที่ 29 ธันวาคม 2564 และ 1 มกราคม 2564 ณ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ช่อง CH7 HD และ AIS Play ถ่ายทอดสดเวลาประเทศไทย 19:30 น. ทั้งสองนัด ซึ่งทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินโดนีเซีย
ภาพจาก ช้างศึก