"หมอธีระ" หรือ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาพูดถึง สถานการณ์โควิด-19 ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ว่า... 5 มกราคม 2565 ทะลุ 295 ล้านไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,983,537 คน ตายเพิ่ม 5,830 คน รวมแล้วติดไปรวม 295,242,257 คน เสียชีวิตรวม 5,472,460 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ อเมริกา ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี และสเปน
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 88.16 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 89.57
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 54.29 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 52.31
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 5 ใน 10 อันดับแรก และ 12 ใน 20 อันดับแรกของโลก
...อัพเดต Omicron
Omicron แพร่ระบาดไปแล้ว 140 ประเทศ โดยมี 17 ประเทศที่รายงานมากกว่า 1,000 ราย
...สำหรับสถานการณ์ไทย
จำนวนเคส Omicron สะสม 2,062 คน เป็นอันดับ 13 ของโลก
...เปรียบเทียบความเสี่ยงในการติดเชื้อจนต้องนอนรพ.ของแต่ละสายพันธุ์
Ratcliff J จากมหาวิทยาลัย Oxford ได้ทบทวนข้อมูลวิชาการและชี้ให้เห็นว่า ความเสี่ยงในการป่วยจนต้องนอนรพ.ของโรคโควิด-19 นั้น ของแต่ละสายพันธุ์
จะพบว่า เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม Wuhan แล้ว สายพันธุ์ล่าสุดอย่าง โอมิครอน มีความเสี่ยงที่ติดเชื้อแล้วป่วยจนต้องนอนรักษาในรพ. มากกว่าถึง 1.4 เท่า หรือ 40%
ในขณะที่อัลฟ่านั้นมากกว่า Wuhan ราว 1.7 เท่า และเดลต้าราว 2.4 เท่า
...วัคซีนช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
ดังที่เราทราบกันมาแล้วว่า การฉีดวัคซีนจะช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรงได้ เพราะจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งในน้ำเลือด ที่เรียกว่า แอนติบอดี้ และภูมิคุ้มกันระดับเซลล์
ในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีงานวิจัยถึง 6 ชิ้น จากทั่วโลก ที่ศึกษาผลของวัคซีนต่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ได้ และอยู่ได้นานถึง 6-8 เดือน ซึ่งเป็นเวลาที่ศึกษา และอาจนานกว่านั้น โดยภูมิคุ้มกันระดับเซลล์นี้สามารถต่อสู้กับเชื้อสายพันธุ์ Omicron ได้ด้วย (เครดิตตาราง: Topol E)
ภูมิคุ้มกันระดับเซลล์นี้เชื่อว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรง นี่ถือเป็นสัญญาณที่ดี และเป็นข้อมูลที่สนับสนุนให้มีการฉีดแก่ประชาชน
...สำหรับประชาชนไทย
ขณะนี้เราเห็นชัดเจนว่า Omicron ระบาดหนักขึ้นเรื่อยๆ
ถัดจากกลางเดือน คาดว่าจะเป็นช่วงอัตราเร่งของการระบาด (acceleration phase)
การป้องกันตัวเองและสมาชิกในครอบครัวนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง
อย่าหลงเชื่อกับการหวังจะได้ประโยชน์จากการติดเชื้อ ว่าไม่รุนแรง และหวังจะได้ภูมิคุ้มกันหมู่ เพราะการติดเชื้อไม่ใช่การฉีดวัคซีนธรรมชาติ
มีโอกาสป่วยรุนแรง และเสียชีวิตได้
นอกจากนี้การติดเชื้อโรคโควิด-19 นั้นจะมีผลกระทบระยะยาว ที่เรารู้จักกันในชื่อ Long COVID ซึ่งส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกายทั้งสมอง หัวใจและหลอดเลือด ทางเดินอาหาร หรือภาวะทางจิตได้ในระยะยาว สายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้มีโอกาสเกิดได้ถึง 20-40% แต่สำหรับ Omicron เรายังไม่มีข้อมูล ดังนั้นจึงไม่ควรประมาท ได้ไม่คุ้มเสียครับ
ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า
อยู่ห่างจากคนอื่นเกินหนึ่งเมตร
เลี่ยงที่แออัด ถ่ายเทอากาศไม่ดี
หมั่นสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ควรหยุดเรียนหยุดงานและรีบตรวจรักษา