ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้สรุปมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ปี 2565 เพื่อหาทางออกช่วยเหลือลูกหนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อ และหนี้ทุกประเภท ผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งลูกหนี้สามารถติดต่อสถาบันการเงินเพื่อเข้าร่วม มาตรการต่างๆ และปรับโครงสร้างหนี้ หรือเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือของแบงก์ชาติ ตามประเภทและความต้องการ
1.แก้ไขหนี้เดิม/ปรับโครงสร้างหนี้
- สินเชื่อส่วนบุคคล/บัตรเครดิต รวบหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเป็นก้อนเดียวผ่อนนานสูงสุด 10 ปี ดอกเบี้ย 5% ผ่าน www.debtclinicbysam.com
- สินเชื่อบ้าน/ สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน หรือ Debt consolidation รวบหนี้บ้าน และหนี้รายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน เพื่อลดภาระดอกเบี้ย
- หนี้ทุกประเภท แก้หนี้ระยะยาว (3 ก.ย.64) ปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาวให้สอดคล้องกับรายได้
- หนี้ทุกประเภท แก้หนี้ระยะยาวของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs) ปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาวให้สอดคล้องกับรายได้ ตั้งแต่ 1 ม.ค.65-31 ธ.ค.66
- หนี้ทุกประเภท ทางด่วนแก้หนี้ 1.สามารถลงทะเบียนขอปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ และ 2.ปรับโครงสร้างหนี้ธุรกิจที่มีเจ้าหนี้หลายราย ผ่าน www.1213.or.th/app/debtcase
- หนี้ธุรกิจ โครงการพักทรัพย์ พักหนี้ โอนทรัพย์ชำระหนี้ โดยให้สิทธิซื้อคืน (ไม่เป็น NPL 31 ธ.ค.62)
2. ขอสินเชื่อ
- หนี้ธุรกิจ สินเชื่อฟื้นฟู ขอสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง ในการประกอบธุรกิจ ดอกเบี้ยเฉลี่ยไม่เกิน 5% ต่อปีอายุ 5 ปี (ไม่เป็น NPL 31 ธ.ค.62)
- บัตรเครดิต/สินเชื่อส่วนบุคคล
1. ผ่อนผันเพดานวงเงิน ขยายเพดานวงเงินเป็น 2 เท่า สำหรับลูกหนี้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนผู้ให้บริการ
2. สินเชื่อบุคคลดิจิทัล (Digital P-Loan)ขยายวงเงินเป็น 40,000 บาท ชำระคืนภายใน 12 เดือน
3. รับคําปรึกษา
-หนี้ทุกประเภท chatbot หมอหนี้เพื่อประชาชน แนะนำแก้หนี้ด้วยตนเองสำหรับลูกหนี้รายน่อยและลูกหนี้ SMEs ผ่านเว็บไซต์ ผ่าน www.bot.or.th/app/doctordebt และ Line@doctordebt
โดยลูกหนี้ SMEs สามารถลงทะเบียนรับคำปรึกษาจากทีมหมอหนี้ 2 ช่องทาง
4. แจ้งปัญหาและเรื่องร้องเรียน
-หนี้ทุกประเภท ทางด่วนแก้หนี้ ประสานงานเจ้าหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้ได้รับการแก้หนี้โดยเร็ว โทร 1213 หรือ www.1213.or.th/app/debtcase