จากกรณี เกิดเป็นภาพอันซีนสยบดราม่าไม่เหยียบวัดสร้อยทอง อัพเดทล่าสุดทาง ศ.ดร.อุทิส ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา โพสต์เฟซบุ๊ค เป็นภาพที่ทาง ทิดไพรวัลย์ ได้เข้าพบ "เจ้าคุณอุทัย" พระราชปัญญาสุธี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง สยบดราม่าไม่เหยียบวัดสร้อยทอง คติ “พวกเรายังรักกัน” ยังคงอมตะที่วัดสร้อยทอง ถ้าไม่มีตำแหน่ง ไม่มีอำนาจ ก็น่ากราบไหว้ พอปูนบำเหน็จ มีตำแหน่ง มีอำนาจ เวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน น่าสะพรึงกลัว
ข่าวล่าสุดนั้น ทางเฟซบุ๊ค Uthit Siriwan เปิดเผยว่า ท่ามกลางข่าวลือ ให้ท่านมหา 3 รูปย้ายวัด เลยนำมาซึ่งความจริงคือ 3 รูป เลือกทางเดินชีวิตใหม่ “ลาสิกขา” ไม่ย้ายวัด ตามกระแสข่าว 2พส ล่วงหน้าไปแล้ว วันนี้ ทราบว่าอีกราย เมื่อวาน พระมหา ดร. สมพงษ์ รตนวํโส ซึ่งถือว่าเป็นคู่หู ท่านสมปอง ได้ลาสิกขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับท่านเจ้าคุณอุทัย เพิ่งตัดใจลาสิกขาตาม เมื่อไม่นาน!
ระหว่างความอึมครึมใครจะครองเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองก็ปรากฏภาพที่เห็นสยบข่าวลือไม่เหยียบวัดสร้อยทอง ส่วนตัวผมชื่นชอบ อยากเห็นพวกเรารักกัน ยกตัวอย่างผมกับเจ้าคุณอุทัย เจอกัน ก็ทักทาย นมัสการ คุยกันปกติ ไม่อาฆาตมาดร้าย เหมือนพระมหาเถระบางราย
ประโยคแทรก
ที่บอกว่าผมนับถือหลวงพ่อสมเด็จวัดพระเชตุพน
ออกนอกหน้า “หมั่นไส้” ก็ให้หมั่นไส้ตลอดไป
ผมจะนับถือคน ก็จากใจ
หลวงพ่อสมเด็จจะบังคับผมนับถือก็หาไม่ !
แน่จริง นักเลงจริง ดีจริง มีคุณธรรมที่หมดจดจริง
ก็ทำธัมมะในตัวให้ผมนับถือเลื่อมใสในเมตตาจิต
อย่าใช้ภัยมืดบีบบังคับ …
อย่าเผลอ ผมไม่เหมือนชาวบ้าน
ร้องทุกข์กล่าวโทษเล่นงานโต้กลับได้ทุกเมื่อ
ถ้ามัวแต่ผูกใจเจ็บ ผูกอาฆาตพยาบาทรายนั้นรายนี้
ผมก็รุกไล่ล่าตลอดเวลาเช่นกัน !
แผ่เมตตา อภัย อโหสิ
อย่าผลักไสไล่มิตรให้เป็นอริ
คือกลยุทธ์ที่ดีที่สุด
จบประโยคแทรก
ถ้าถามผม เจ้าคุณอุทัย นั่งกลาง มาจากวัดมงคลทับคล้อ พิจิตร ที่มาวลีฮิต ผมพูดบ่อย “พวกเราต้องรักกัน” ที่ซึ่งเบื้องหลัง กว่าศิษย์เก่าวัดทับคล้อจะรวมตัวกันได้
ก็ต้องฟันฝ่า ทฤษฎี “เค็ม เหนียว เขี้ยว เบี้ยว” ของผม ที่ผมนำเสนอทฤษฎีนี้เอง ภาพที่คนดังนั่งพนมมือชื่นมื่น ไม่ใช่ พระศรีปริยัติสุธี ปรีชา จิตฺตปริสุทฺโธ ป.ธ. ๙
ซึ่งกรรมการมหาเถรสมาคม หลายรูปยืนยันตรงกันว่านี่คือเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองตัวจริง
ประโยคแทรก ถึงขนาดพระธรรมกิตติเมธี วัดราชาธิวาส (ธ) พูดพาดพิงถึงวัดสร้อยทองแล้ว เจ้าตัวยังงุนงง เพราะท่านเจ้าคุณเกษมเอง ปีนี้เป็นปี “โชคร้ายนายชัง”
พฤษภาคม ๖๔ ท่านเจ้าคุณพระราชวิสุทธิกวี วัดพระมหาธาตุ นครศรีธรรมราช ได้ครองตำแหน่งเจ้าคณะภาค ๑๖ ธรรมยุตแทน ที่ช็อกทั้งวงการคณะธรรมยุตคือ
ท่านเจ้าคุณแสวง พระเทพปริยัติวิมล วัดบวรนิเวศวิหารนอกจากเป็นเจ้าคณะภาค ๑๐ (ธ) แล้วยังเป็นกรรมการมหาเถรสมาคมด้วย
ในวงการทราบดีว่าเจ้าคุณเกษมเจ้าคุณแสวง เปิดสมรภูมิรบร้อนระอุ ที่มหามกุฏราชวิทยาลัย ผลคดี เจ้าคุณเกษม ได้เงินสด ชนะคดี หลายล้านบาทได้กินได้ใช้สุนทรียะในบั้นปลาย ทว่าตำแหน่งกลับไม่จีรัง ถูกช่วงชิง แย่งชิงตำแหน่ง อำนาจก็หลุดลอย เหลือแค่ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง การเมืองสงฆ์ (ธ) ไม่แน่จริง อยู่ยาก
เจอกัน คงได้อัพเดต จะเล่าสู่กันฟัง บางเรื่อง ต้องฝ่าดงสุนัขดุไปนั่งคุยการลับ ที่ตำหนักสมเด็จ ร. ๔ วัดราชาธิวาส …จบประโยคแทรก
ในภาพ
เจ้าตัวอดีต พส คนดัง
ยืนยันว่า ไม่นั่ง “พนมมือ” ก้มหัวคารวะ
เจ้าคุณปรีชา อย่างแน่นอน
ในภาพคือพระราชาคณะอีกรูป
พระอุดมพุทธิญาณ
วิชิต ธมฺมธโร ป.ธ. ๙
วัดธาตุ พระอารามหลวง ขอนแก่น
พระราชาคณะที่ส่งข่าว รายงานคลาดเคลื่อน
ลงภาพ unseen จากห้องรับรองส่วนตัวชั้น 5 ท่านเจ้าคุณอุทัยให้ชมกันว่า คติ “พวกเรายังรักกัน” ยังคงอมตะ ที่วัดสร้อยทอง ที่ 3 วันก่อน พระมหาเถระ “พาดพิง” รุนแรงในที่ลับ ผมรับฟัง ก็ผ่านเลย ไม่บอก “อดีต พส คนดัง” เพราะถ้าได้ยินเข้า คงลมออกหู น่าจะถูก “ถอนหงอก” อีกรอบ และจะหนักหน่วงรุนแรงยิ่งกว่าเดิม คือต่างคนต่างอยู่คนละวงการก็จบ ยังแอบด่าลับหลัง ไม่นักเลงจริง
สะท้อนความจริงอย่างในวงการ คติ “พวกเราต้องรักกัน” กำลังริเริ่ม ส่วนคติว่า “เกลียดกันเข้ากระดูกดำ” พบนิยมชมชอบใช้กันแพร่หลายในวัดวาอาราม ขั้นปกครอง เวลานี้ ซึ่งขาวพุทธต้องช่วยกันกำจัดให้ฉุกคิดกัน ให้ระมัดระวังการใช้อำนาจแบบเผด็จการ การอาฆาตมาดร้าย การผูกใจเจ็บความพยาบาทเคียดแค้นในใจรุนแรงเกลียดกันเข้ากระดูกดำโดยไม่พูด พยายามให้จบในรุ่นเรา ถ้าทำได้ ถ้าเป็นไปได้เป็นภัยคุกคามรุนแรงติดเชื้อกัน วัดต่อวัด สืบทอดกันรุ่นต่อรุ่น
ยิ่งกว่าโคโรนา + เดลต้า + โอมิครอน คือถ้าไม่มีตำแหน่ง ไม่มีอำนาจ ก็น่ากราบไหว้ พอปูนบำเหน็จ มีตำแหน่ง มีอำนาจ เวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน น่าสะพรึงกลัว ก็สมควรแล้ว ที่จะชดใช้กรรม ในวันหนึ่งวันใด ข้างหน้า เพราะเหตุว่า ความลับไม่มีในโลก
ขอบคุณ
Uthit Siriwan