กรณี “ปิ๊ง จิดาภา วัชรสินาพร”ดาราละครจักรวงศ์ “นางสิบสอง” ผ่านเข้ารอบ 50 คน ประกวดนางสาวไทยปี 2565 กลับมาเป็นดรามาร้อนอีกครั้ง กับ โดยโลกโซเชียลขุดกันยับไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์คลิปหนุ่มเอาถุงพลาสติกครอบหัวน้องหมาคอร์กี้เพื่อลงโทษ ตีสุนัขเสียงดัง ขณะที่เจ้าตัวหัวเราะคิกคัก จนคนรักสัตว์มองว่าเป็นการกระทำที่เกินไป รวมทั้งเคสที่เจ้าตัวเคยโพสต์เมาแล้วขับหนีด่าน คอนเทนต์เหยียดเชื้อชาติ คอนเทนต์อ้วนผอม จนมีการตั้งคำถามไปถึงผู้จัดประกวดทำนองว่าไม่เช็กประวัติผู้เข้าประกวดมาก่อนเลยหรือ
ล่าสุด ปิ๊ง จิดาภา ก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า “มันคือความผิดพลาด ปิ๊งก็ยอมรับความผิดพลาดว่าปิ๊งผิดจริงๆ เป็นบทเรียนมากๆ จะให้ปิ๊งขอโทษอีกกี่ครั้งปิ๊งก็ยินดี ที่ผ่านมาปิ๊งได้รับผลจากสิ่งที่ปิ๊งทำลงไปแล้วก็ค่อนข้างหนักมากๆ
ช่องยูทิวบ์ที่ปิ๊งทำให้ความรู้เกี่ยวกับการเงินก็ต้องปิดไป ต้องลบทุกอีพี เพราะมีคนเข้าไปคอมเมนต์ในคลิปลิงก์เก่าๆเหมือนไม่อยากให้สนับสนุนปิ๊งเยอะมากๆ รวมไปถึงมีคนอีเมลไปถึงทีมโปรดักชั่นของปิ๊งเลยว่าไม่อยากให้ร่วมงานกับคนแบบนี้ ปิ๊งก็เข้าใจทีมโปรดักชั่นนะคะเลยดาเมจคอนโทรลไว้ก่อน เพราะไม่อย่างนั้นมันก็จะมีผลกระทบต่อส่วนอื่นๆ ของเขาด้วย ก็ค่อนข้างหนัก งานต่างๆ ในวงการที่เคยรับก็หายไปหมดเลย”
"ที่พีกสุดน่าจะเรื่องที่เพื่อนตีหมาแล้วเอาถุงไปคลุมน้อง มันเลยกลายเป็นเรื่องจุดประเด็นไปในเรื่องอื่นๆ ทำให้ชีวิตเราพังมากๆ เรียกว่าที่ผ่านมาก็จมอยู่กับความทุกข์ อยู่แต่กับตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลยมาครึ่งปี โทษตัวเอง คิดวนไปวนมาว่าเราไม่น่าทำลงไปเลย"
"ครึ่งปีที่ปิ๊งนอนจมอยู่กับกองน้ำตา มันไม่ใช่แค่เรื่องงาน แต่เพื่อนด้วย เพื่อนสนิทเลิกคบกันไปเยอะเหมือนกัน ชาวเน็ตไปด่าเพื่อน เพื่อนรู้สึกไม่ดีกับเรา ปิ๊งเข้าใจเขานะคะ แต่ตอนนั้นเราก็แย่อยู่ มีบางคนไลน์มาบอกว่าปิ๊งช่วยลบรูปเก่าๆ ที่มีเขาอยู่ในไอจีปิ๊งออกให้หมดเลยได้ไหม ไม่อยากให้ใครมารู้ว่าใครเป็นเพื่อนกับปิ๊ง"
"ถึงปิ๊งจะพิการ อวัยวะบางส่วนหายไป แต่ปิ๊งก็ยังอยากจะมีชีวิตอยู่ ชีวิตมันคือคุณค่า คือของขวัญที่พระเจ้าให้มา ต่อให้มันจะทุกข์ จะเจ็บขนาดไหน ปิ๊งก็ยังอยากจะใช้ชีวิตต่อไป มันคือรสชาติของชีวิต โชคดีมากๆ ที่ปิ๊งยังรักชีวิตตัวเอง เราจะล้มจนเละขนาดไหนเราก็ต้องกล้าที่จะลุกขึ้นมาเผชิญกับความผิดพลาดในอดีตของตัวเองให้ได้"
"ชีวิตปิ๊งมันเดินทางไปถึงจุดที่ต่ำที่สุดแล้ว เรารู้เลยว่าคนที่เขาตกต่ำที่สุดในชีวิตเขาเป็นกันยังไง มันหนักจนถ้ามันกลับมาอีกเราก็ชินแล้ว เราก็ต้องยอมรับผลของมัน ปิ๊งยอมรับทุกอย่างได้แล้ว เพราะความจริงก็คือเราผิดจริงๆ ต่อให้คนจะด่าจะว่าปิ๊งขนาดไหนปิ๊งก็ยังจะขอโอกาส"