สำหรับ “เขาทราย แกแล็คซี่” หรือ “สุระ แสนคำ” เป็นอดีตนักมวยแชมป์โลกชาวไทย เป็นแชมป์โลกคนที่ 9 ของไทย และเป็นแชมป์โลกสมาคมมวยโลก (WBA) คนที่ 4 ของไทย ในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท (115 ปอนด์) ทั้งนี้ ในช่วงที่เขาทรายครองตำแหน่งแชมป์โลกของ สมาคมมวยโลก (WBA) จะเรียกพิกัด 115 ปอนด์ว่า จูเนียร์แบนตัมเวท
“เขาทราย แกแล็คซี่” เป็นมวยถนัดซ้าย (Southpaw) ได้รับฉายาในไทยว่า ซ้ายทะลวงไส้ และสื่อต่างประเทศตั้งฉายาว่า The Thai Tyson นอกจากนี้แล้ว เขาทรายยังมีพี่ชายฝาแฝด ซึ่งเป็น อดีตแชมป์โลกเช่นเดียวกันคือ เขาค้อ แกแล็คซี่ อดีตแชมป์โลก WBA รุ่นแบนตั้มเวท โดยมีระยะเวลาที่เป็นแชมป์โลกคู่กัน ซึ่งทำให้นับเป็นแชมป์โลกคู่แฝดรายแรกของโลกอีกด้วย
เเละก่อนหน้านี้หลายๆคนคงพอทราบมาบ้างว่า “เขาทราย แกแล็คซี่” อดีตนักมวยแชมป์โลก ประกาศเตรียมย้ายไปอยู่ประเทศอังกฤษ! โดยตอนนี้ก็ได้มองหาลู่ทางเรียบร้อย เปิดสอนมวยไทยในต่างแดน
เเละล่าสุดต้องบอกว่าทำเอาตกใจไม่น้อย เมื่อ “เขาทราย แกแล็คซี่” ได้เผยเรื่องราวเตรียมพาลูก-เมีย ย้ายไปอยู่ประเทศอังกฤษหลังโควิด-19 ซาลง ก่อนตัดพ้อเสียดาย ขายทอง 380 บาท ในช่วงทองคำราคาแค่ 7 พันบาท! โดย “เขาทราย แกแล็คซี่” ได้กล่าวว่า
“ผมแพลนกับภรรยาและลูกๆ ไว้แล้ว ตอนนี้อยู่เพิ่งป.2 เอง รอลูกจบ ป.6 เราก็จะไปแล้ว ตอนนี้ลูกก็มีพาสปอร์ตเป็นคนอังกฤษแล้ว มีทั้งไทยทั้งอังกฤษ 2 คนเลย แม่เขาด้วย แต่ผมยังไม่มี อาจจะแก่เกินแกงเลยขอยาก
ที่อยากจะย้ายไป เรามองลู่ทางเอาไว้ ด้วยแฟนเคยไปเรียนที่นั่นอยู่ 8 ปี เขาก็มีลู่ทางว่าเราน่าจะไปเปิดยิมได้นะ ที่นั่นยังไม่มีค่ายมวยเลย เราอาจจะทำได้นะ ก็ใช่ เราทำได้อยู่แล้ว มันไม่ยากเหนือบ่ากว่าแรงเลย เปิดวันไหนก็ได้ถ้าไม่มีโควิด พร้อมจะบินไปได้ตลอดเลยครับ อาจจะไปเที่ยว ไปเซอร์เวย์ก่อน แต่รอให้โควิด-19 มันซากว่านี้หน่อย”
มองบั้นปลายชีวิตจะไปอยู่อังกฤษ ทำธุรกิจค่ายมวย น้ำปลาร้า
“แพลนเอาไว้ เราตั้งใจให้ลูกไปเรียนที่นั่น แต่ตอนนี้มันโควิดระบาดหนักในอังกฤษด้วย ลูกเราก็ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เราก็เก็บเงินสักก้อนไว้ไปวางรากฐานที่นั่น นอกจากค่ายมวยแล้วเราก็มองว่าจะทำน้ำปลาร้าด้วย
ไม่ได้คิดว่ามีคู่แข่ง ของพวกนี้เป็นของพื้นบ้าน ทานกันได้หมด อาจจะชื่อน้ำปลาร้าทะลวงไส้ มันคือฉายาของเราไง คนอาจจะสงสัยว่ามันเป็นยังไง ทะลวงไส้ หรืออาจจะเป็นน้ำปลาร้าแชมป์โลก แฟนผมเขาเก่ง เขาหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเรา ตัวผมเองนึกไม่ถึงหรอก เรื่องราวในอดีตเราไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เราสนใจแต่ข้างหน้า”
ก่อนตัดพ้อ เสียดายขายทอง 380 บาท ในช่วงทองราคาแค่ 7 พันบาท
“จำได้ ต่อย 12 ยก ได้ทองมาน่าจะ 80 บาท ได้เยอะที่สุดตอนป้องกันครั้งที่ 14 นะ ได้ทองมา 130 บาท สมัยนั้นทองยังบาทละ 4,500 บาทเอง เอาไปขายตอนทอง 7,000 บาทครับ พูดแล้วยังเสียดายอยู่เลย รวมๆ แล้วได้ทองมาตั้งหมด 380 บาท เยอะนะ คนเรากว่าจะสะสมทองได้ 380 บาท (ตอนนี้ยังอยู่เท่าไหร่?) โถ! เราก็ทำธุรกิจของเรา จะเก็บเอาไว้ทำไม ขายไปตั้งแต่ตอน 7,000 แล้ว นึกแล้วเสียดายมาก เราก็คิดไว้แค่ว่าเอาไว้สักเส้นนึงก็พอ เส้นละ 10 บาท ไว้ใส่เท่ๆ คือเป็นประวัติศาสตร์เลยนะ เป็นนักมวยคนแรกที่ได้รับทองเยอะที่สุด ตอนมันขึ้นมา 7,000 เรารีบขายเลยกลัวมันจะไม่ขึ้นอีก พอผ่านไปก็ขึ้นเอาขึ้นเอา เสียดายมาก ตอนนี้เกือบ 3 หมื่นแล้ว”