จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha" นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาโพสต์ข้อความโดยระุรายละเอียดไว้ว่า
พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ
ผมในนามนายกรัฐมนตรีและ ผอ.ศบค.ขอชื่นชมพี่น้องประชาชนทุกคนที่เข้มแข็งและอดทนต่อสถานการณ์ความยากลำบากที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ เราก็ได้แสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมกันฝ่าฟันเพื่อเอาชนะไวรัสกลายพันธุ์ "โอมิครอน" ที่แม้จะแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วในหลายประเทศทั่วโลก แต่ในประเทศไทยแล้วกลับมีทิศทางทรงตัว ทำให้ระบบสาธารณสุขของไทยสามารถรับมือได้เป็นอย่างดี ซึ่งนี่คือจุดแข็งของคนไทย ที่เมื่อเกิดเหตุการณ์คับขันขึ้นคราวใด แต่กลับจะเป็นการปลุกความสามัคคี ให้เกิดความร่วมแรงร่วมใจของคนในชาติ เพื่อช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ เช่นเดียวกับที่วัคซีนสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์ให้ต่อสู้กับไวรัสที่เข้ามาในตัวเราเช่นกัน
ยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาลและ ศบค. ในการเอาชนะสงครามโรคระบาดครั้งใหญ่ ที่ไม่เคยเกิดในโลกมากว่า 100 ปี คือ การรักษาสมดุลระหว่างสุขภาพและปากท้อง ที่เรายึดถือมาโดยตลอด ในด้านสุขภาพ ปัจจุบันประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนกว่า 110 ล้านโดส ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีบทบาทนำในเรื่องการฉีดกระตุ้นเข็ม 3 หลายสูตร ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้การยอมรับและยกให้เป็นกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ และล่าสุดเราก็จะขยายการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กๆ วัย 5-11 ปี ในเร็วๆ นี้อีกด้วย
สำหรับในด้านปากท้อง ด้านเศรษฐกิจ ผมได้สั่งการให้รัฐมนตรีของกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้ดูแลเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเบื้องต้น ครม. ได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉินกว่า 1,480 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการสินค้าราคาประหยัด โดยเฉพาะในช่วงตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยจะมีการตั้งจุดจำหน่ายมากกว่า 3,000 จุดทั่วประเทศ เพื่อเปิดขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพในราคาประหยัดให้แก่พี่น้องประชาชน ซึ่งรวมถึงสินค้าเกษตร เนื้อไก่ ไข่ไก่ สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น จากสมาคม ผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง และซัพพลายเออร์ต่างๆ เป็นเวลา 90 วัน ควบคู่ไปกับการตรึงราคาก๊าซหุงต้มไปอีก 2 เดือน (ถึงสิ้น มี.ค.65) และมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล เพื่อลดต้นทุนค่าอาหาร ค่าขนส่ง และลดค่าครองชีพสำหรับทุกครัวเรือน และ ครม.ยังได้อนุมัติให้เร่งโครงการ "คนละครึ่ง" เร็วขึ้น เปิดร้านธงฟ้าให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในราคาประหยัดอีกด้วย
นอกจากนั้น ผมยังได้สั่งการให้มีการควบคุมราคาสินค้า ไม่ให้ขึ้นราคาในสภาวะเช่นนี้ เช่น เนื้อไก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญอื่นๆ และผมได้กำชับให้ทุกฝ่ายมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีการกักตุนสินค้าโดยเด็ดขาด ผมถือว่าในสภาวะเช่นนี้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา หากใครยังคิดเอาเปรียบพี่น้องประชาชนในยามนี้ ถือว่าไม่เห็นแก่ส่วนรวม และต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ทันที
เรื่องปัญหาสินค้าราคาแพงนี้ เป็นปัญหาที่ผมให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเกิดผลกระทบต่อพ่อแม่พี่น้องในประเทศทุกคน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยที่ต้องแก้ไขทั้งปัญหาเฉพาะหน้า และปัญหาที่เกิดจากระบบโครงสร้าง โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งประเทศไทย มีระบบการเงินการคลังที่มั่นคงเป็นต้นทุนที่ดีอยู่แล้ว มีอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำมาก ผมจึงเชื่อมั่นว่าปัญหาสินค้าราคาแพงนี้จะแก้ไขได้สำเร็จที่ต้นตอของปัญหา โดยไม่เกิดผลกระทบในระยะยาวต่อระบบเศรษฐกิจไทย
โดยในวันนี้ (20 ม.ค.65) ได้มีการประชุม ศบค. โดยที่ประชุมได้มีมติปรับมาตรการบางประการตามสถานการณ์ที่มีแนวโน้มดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพื่อรักษาสมดุลเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการประกอบกิจการและการท่องเที่ยว บนพื้นฐานของความปลอดภัยทางสุขภาพ จากข้อมูลทั้งหมดที่ผมได้รับ ทำให้ผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องการแพร่ระบาดในระลอกใหม่นี้ รวมถึงสถานการณ์สินค้าราคาแพงได้ในเวลาไม่นาน และเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยตามแผนยุทธศาสตร์ปี 2565 ได้อย่างเต็มกำลังต่อไป ขอเพียงพี่น้องประชาชนทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ไม่มีอะไรที่ประเทศไทยทำไม่ได้ครับ