โดย นพ.ศุภกิจ เผยว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ทำการทดสอบภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนต่อไวรัสสายพันธุ์เดลตาและโอมิครอน ด้วยวิธี PRNT (Plaque Reduction Neutralization Test) คือ การเจาะเลือดของผู้รับวัคซีนสูตรต่างๆมาแล้ว 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันขึ้นมากพอ จากนั้นมาปั่นแยกเอาซีรั่ม แล้วมาทดสอบกับไวรัสโควิดที่เพาะเลี้ยงในจานทดลองที่มีเชื้อเดลตาและโอมิครอน โดยจะเจือจางซีรั่มลงไปเป็นเท่าตัวจนกว่าจะสามารถฆ่าไวรัสลงได้ครึ่งหนึ่งจึงจะหยุด ซึ่งเป็นระดับสุดท้ายที่น่าจะป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้ โดยมีการทดสอบภูมิคุ้มกันจากวัคซีนทั้งหมด 8 สูตรที่มีการใช้ในประเทศไทย ดังนี้
1. สูตรซิโนแวค + แอสตร้าเซนเนก้า
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตา 201.90
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอน 11.63
ลดลง 17.35 เท่า
2. สูตรแอสตร้าเซนเนก้า + แอสตร้าเซนเนก้า
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลต้า 226.90
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอน 23.81
ลดลง 9.53 เท่า
3. สูตรไฟเซอร์+ไฟเซอร์
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตา 189.40
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอน 19.17
ลดลง 9.88 เท่า
4. สูตรซิโนแวค+ไฟเซอร์
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตา 581.10
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอน 21.70
ลดลง 26.77 เท่า
5. สูตรแอสตร้าเซนเนก้า+ไฟเซอร์
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตา 388.20
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอน 21.21
ลดลง 18.3 เท่า
6. สูตรซิโนแวค + ซิโนแวค + แอสตร้าเซนเนก้า
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลต้า 368.10
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอน 71.64
ลดลง 5.14 เท่า
7. สูตรซิโนแวค + ซิโนแวค + ไฟเซอร์
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลต้า 729.30
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอน 282.50
ลดลง 2.58 เท่า
8. สูตรแอสตร้าเซนเนก้า + แอสตร้าเซนเนก้า + ไฟเซอร์
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลต้า 691.10
ระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอน 229.90
ลดลง 3.10 เท่า
อย่างไรก็ตาม นพ.ศุภกิจ ระบุว่า ผลทดสอบนี้พบว่าภูมิคุ้มกันในเลือดที่เคยต่อสู้เดลตาได้ค่อนข้างดี มันลดลงเมื่อมาเจอโอมิครอนในทุกกรณี ไม่มีอันไหนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับข้อสันนิษฐานเบื้องต้นที่เคยมีมาก่อนว่า การกลายพันธุ์ของโอมิครอน น่าจะหลบวัคซีนได้มาก และหลายประเทศในโลกก็ได้ผลทดสอบออกมาใกล้เคียง แต่นี่คือตัวเลขภูมิฯ ในร่างกายมนุษย์ แต่กลไกการต่อสู้ต่อเชื้อโรคไม่ได้มีแค่ภูมิในน้ำเลือด แต่ยังมีเรื่องของเซลล์เม็ดเลือดขาว ที่จดจำไวรัสได้ ก็จะออกมาช่วยจัดการ เพียงแต่การทดสอบนี้วัดแค่จากน้ำเลือด
ข้อสรุปจากการทดสอบ พบว่าวัคซีนทุกสูตรมีอิทธิฤทธิ์ในการลบล้างฤทธิ์โอมิครอนลดลง แต่หากฉีดกระตุ้นเข็ม 3 มันจะขยับขึ้นไปสูงขึ้น แต่มีคำถามว่า ฉีดสูตรไหนแล้วภูมิฯ อยู่นานเท่าไหร่ ต้องติดตามต่อไปว่า เมื่อผ่านการกระตุ้นเข็ม 3 ไปแล้ว 2 เดือน หรือ 3 เดือน สูตรไหนจะเหลืออยู่แค่ไหน ซึ่งต้องใช้เวลา อีกทั้ง ไม่ว่าจะฉีดสูตรไหนก็ยังช่วยลดความรุนแรง และเสียชีวิตชีวิตได้ในทุกสายพันธุ์ เป็นข้อมูลจากโลกจริง (Real World) ที่ผ่านมา ดังนั้นการฉีดวัคซีนยังมีความจำเป็น โดยเฉพาะเข็มกระตุ้น เพื่อให้ภูมิคุ้มกันมากพอที่จะลดการแพร่การติดเชื้อและการเจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตได้มากขึ้น