จากกรณี (26 ม.ค.65) มีรายงานว่าสำนักงานอัยการสูงสุดเผย คดีเสพโคเคน "บอส อยู่วิทยา" ใกล้หมดอายุความในเดือนกันยายน 2565 แต่ยังส่งฟ้องไม่ได้ เพราะผู้ต้องหาหลบหนีในต่างประเทศ รอตำรวจแจ้งพิกัด ประสานส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
โดยในรายงานระบุว่า นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ เผยความคืบหน้าคดี บอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาขับรถชน จนตอนนี้อัยการยังคงมีคำสั่งฟ้องอยู่ 2 คดี คือ "ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งจะหมดอายุความ ในวันที่ 3 ก.ย 2570 และคดีเสพโคเคน มีอายุความ10 ปี ซึ่งคดีนี้ใกล้จะหมดอายุความในเดือนกันยายน 2565
ทว่าตามกฎหมาย การจะส่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลจะต้องนำตัวมา จึงได้แจ้งพนักงานสอบสวน ซึ่งมีหน้าที่ในการติดตามตัวผู้ต้องหา แต่เนื่องจากผู้ต้องหาหลบหนีในต่างประเทศ พนักงานสอบสวน ต้องไปติดตามแหล่งที่อยู่ของผู้ต้องหา เพื่อให้อัยการประสานส่งผู้ร้ายข้ามแดน ต้องระบุที่อยู่ ที่เป็นไปได้เพื่อประสานประเทศปลายทางจับกุม แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการส่งข้อมูลที่อยู่ของผู้ต้องหาจากตำรวจ มาให้อัยการ จึงไม่สามารถประสานนำตัวมาได้ ทำให้ยังไม่สามารถส่งฟ้องได้
ทั้งนี้ ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผย ยังไม่เคยได้รับแจ้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า พิกัดของบอส อยู่วิทยา อยู่ที่ไหนอย่างไร สิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งมาให้มีเพียงสำเนาหมายจับจากศาล แต่ยังไม่ส่งตัวผู้ต้องหามาให้
ตอนนี้จึงมีความกังวลเพราะ มีคดีที่ใกล้หมดอายุความ ตราบใดที่ไม่มีตัวผู้ต้องหามาให้อัยการ ก็ไม่สามารถที่จะส่งฟ้องต่อศาลได้ หากไม่ได้ตัวมาภายในวันที่ 3 กันยายน 2565หรือได้ตัวมาหลังจากนั้นก็ไม่สามารถฟ้องได้ในคดีเสพโคเคน เนื่องจากคดีขาดอายุความ ยืนยันว่า อัยการสั่งฟ้อง 2 คดี แต่ยังฟ้องไม่ได้เพราะยังไม่ได้ตัว