เปิดเงื่อนไข วิธีรับ "ถุงยาง-ยาคุมกำเนิด" แจกฟรี!

27 มกราคม 2565

รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เผยแล้ว แจกฟรี "ถุงยาง-ยาคุมกำเนิด" ให้ประชาชนเข้าถึงบริการมากขึ้น 

จากกรณี นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เผยแนวทางการให้บริการยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทานและถุงยางอนามัย ปีงบประมาณ 2565 ว่า บริการดังกล่าวเป็นสิทธิประโยชน์ ด้านการส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ซึ่งในปีนี้ สปสช. ได้เพิ่มจุดให้บริการ แจกฟรี "ถุงยาง-ยาคุมกำเนิด" เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงบริการมากขึ้น 

เผยวิธีรับ "ถุงยาง-ยาคุมกำเนิด" แจกฟรี

สำหรับจุดให้บริการ คือ หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ประกอบด้วย คลินิกการพยาบาลฯ ร้านขายยา โรงพยาบาลเอกชน คลินิกเวชกรรม และหน่วยบริการปฐมภูมิ ซึ่งการเพิ่มจุดเข้าถึงได้มากขึ้น จะทำให้การป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Safe sex) 

โดยยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน จะให้บริการสำหรับหญิงไทยทุกสิทธิ อายุระหว่าง 15-59 ปี โดยผู้รับบริการสามารถรับบริการยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ครั้งละไม่เกิน 3 แผง หรือคนละไม่เกิน 13 แผงต่อปี โดยรับบริการได้ 2 วิธี คือ

1.กรณีมีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน สามารถขอรับยาคุมกำเนิด ในแอปเป๋าตัง เมนูกระเป๋าสุขภาพ เลือกบริการสร้างเสริมสุขภาพ เลือกหน่วยบริการที่จะไปรับ จองสิทธิ และไปรับภายในวันที่จองสิทธิ

2.กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน ให้แสดงบัตรประชาชนเพื่อขอรับยาคุมกำเนิด ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ

 

ถุงยางอนามัย จะให้บริการแก่คนไทยทุกสิทธิอายุ 15 ปีขึ้นไป รับบริการได้ครั้งละ 10 ชิ้น/ สัปดาห์  รอบการจ่าย 7 วัน รับได้ 1 ครั้ง ไม่จำกัดจำนวนถุงยางต่อคนต่อปี วิธีการรับคือ 

เผยวิธีรับ "ถุงยาง-ยาคุมกำเนิด" แจกฟรี

ใช้สมาร์ทโฟน Add Line สปสช. แล้วสแกน QR code ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการแจกถุงยางอนามัย (ดูรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ สปสช.) เพื่อรับถุงยางอนามัยตามไซส์ มีให้เลือก 4 ไซส์ คือ 49 มม., 52 มม., 54 มม. และ 56 มม. 

การให้บริการยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน จะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565 นี้เป็นต้นไป ส่วนถุงยางอนามัยจะเริ่มให้บริการในช่วงเดือนเมษายน 2565