จากกรณีที่มีการออกมา เตือนภัยพ่อแม่โปรดสอดส่องดูแลลูกหลานของท่านให้ดี เนื่องจากขณะนี้มีไส้กรอกอันตรายระบาด โดยพบการระบาดแล้ว 5 จังหวัด ทำให้เด็กป่วยเมทฮีโมโกลบิน สาเหตุจากการกินไส้กรอกไม่มียี่ห้อ ไร้ที่มา
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก เปรมิกาก้า พาเพลิน ได้โพสต์เตือนภัยไส้กรอกเอาไว้ดังนี้
เตือนภัย!!!! ขอเรียกว่าเวรไส้กรอกร้าย อันตรายมากค่ะ ช่วงนี้พ่อแม่ผู้ปกครองต้องระวังมากๆนะคะ
เด็กพี่น้อง 2 คน มา ER ด้วยอาการปากเขียวคล้ำ (central cyanosis) O2 80% อาเจียน ซึมสับสน หลังทานไส้กรอกแท่งไม่มียี่ห้อ 2 hrs. PTA ไม่มีโรคประจำตัวอื่น ให้ O2 therapy on ETT ไม่response เลือดสีดำ chocolate เจาะ ABG มีO2 saturation gap ให้นึกถึงภาวะ "Methemoglobinemia"
ขอบคุณทีมหมอพยาบาล ER รพ.แมคคอร์มิค ทุกคนไวมาก ขอบคุณพี่ทิพย์ Tippy Khunyotying มากๆ ที่ขับรถมากจากบ้านมาช่วยกันช่วยเหลือคนไข้ เพราะมาทีเดียว pack คู่ พร้อมนั่งรถรีเฟอร์กันคนละคันไปส่งด้วยอีก ขอบคุณ อจ.พี่เติร์ก ศูนย์พิษรามา ที่ให้คำปรึกษาน้องตลอดหลายเคสๆ จนอยากเรียน toxico เพิ่มอีกบอร์ด 55 เพิ่งมาเห็นข่าวเช้านี้ว่ากำลังระบาดทั่วไทย จนออกประกาศ warning แล้ว
สุดท้ายขอบคุณทีมสวนดอก ที่รับเคสไวมากก คนไข้ทั้ง2 ปลอดภัยแล้ว
ช่วงนี้ดวงการทำงานพุ่ง ดวงเวรปัง หน้างานจริงเครียดอยู่นะ แต่ adrenaline พุ่งพล่านมาก เลยอยากแชร์เคสเผื่อใครเจอและผู้ปกครองจะได้ระมัดระวังกันค่ะ
นอกจากนี้บนเพจ Ramathibodi Poison Center ได้โพสต์เตือนภัยเรื่องไส้กรอกนี้เช่นเดียวกันระบุว่า ALERT เตือนเฝ้าระวัง!! อย่ากินไส้กรอกจากแหล่งที่ไม่แน่ชัดหรือไม่น่าเชื่อถือ
สัปดาห์ที่ผ่านมี เด็กป่วยด้วยภาวะ เมทฮีโมโกลบิน (Methemoglobin) จำนวน 6 ราย ใน 5 จังหวัด (เชียงใหม่ 2 ราย, เพชรบุรี 1 ราย, สระบุรี 1 ราย, ตรัง 1 ราย, กาญจนบุรี 1 ราย) โดยทั้งหกรายมีประวัติกิน ไส้กรอกไม่มียี่ห้อ ไม่มีเอกสารกำกับ อาการของผู้ป่วยคือ คลื่นไว้ เวียนศีรษะ อาจหมดสติได้ เหนื่อย หายใจเร็ว เขียว ระดับออกซิเจนที่วัดปลายนิ้วต่ำ ในขณะนี้ยังไม่มีรายใดที่รุนแรงถึงแก่ชีวิต
ภาวะ Methemoglobin เป็นภาวะที่ฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงถูกออกซิไดช์โดยสารออกซิแดนท์ต่างๆ กลายเป็น methemoglobin ทำให้สูญเสียความสามารถในการขนส่งออกซิเจน และสีของเม็ดเลือดจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลดำ
ผู้ป่วยจะมีอาการของการขาดออกซิเจนเช่น มึนศีรษะ เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หายใจเร็ว เขียว หากรุนแรงจะมีอาการหอบเหนื่อยมาก เลือดเป็นกรด ความดันโลหิตต่ำและเสียชีวิตได้
โดยสารออกซิแดนท์ที่อาจมีการเติมในไส้กรอกหรืออาหารแปรรูปคือสารตระกูล ไนเตรท และไนไตรท ซึ่งเป็นวัตถุกันเสีย
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 281 (พ.ศ. 2547) ได้กำหนดปริมาณที่อนุญาตให้ใช้โซเดียมไนไตรทและโซเดียมไนเตรทในอาหารได้ไม่เกิน 125 และ 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลำดับ กรณีที่ใช้ทั้งโซเดียมไนไตรต์และโซเดียมไนเตรตให้มีปริมาณรวมกันได้ไม่เกิน 125 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
ในการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีการเติมสารไนเตรท-ไนไตรท เยอะกว่าปกติ หรืออาจผสมไม่ดีทำให้มีบางส่วนมีปริมาณสารสูงเกินกว่าที่ควรได้
โปรดเฝ้าระวังการบริโภคไส้กรอกจากแหล่งที่ไม่แน่ชัด/ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะในเด็กเนื่องจากเด็กจะไวต่อสารกลุ่มนี้มากกว่าผู้ใหญ่ หากมีอาการผิดปกติ ควรไปตรวจที่รพ. หากทาง รพ. สงสัยภาวะ methemoglobinemia สามารถปรึกษา ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดีได้ที่ 1367 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะนี้ทางศูนย์ฯ ประสานกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อดำเนินการสืบค้นแหล่งที่มาของการระบาดเพิ่มเติมแล้ว
เนื้อหาเพิ่มเติม
ปกติร่างกายคนเราได้รับสารออกซิแดนต์ในขนาดน้อยๆจากแหล่งต่างๆอยู่แต่ไม่เกิดปัญหาเพราะร่างกายสามารถเปลี่ยน methemoglobin กลับเป็นฮีโมโกลบินปกติได้ แต่หากมีปริมาณ methemoglobin สูงมากๆ (ได้รับสารออกซิแดนท์เยอะเกินไป) ร่างกายจะเปลี่ยน methemoglobin คืนเป็นฮีโมโกลบินปกติไม่ทัน นำไปสู่ภาวะขาดออกซิเจนในเด็กความสามารถในการเปลี่ยน methemoglobin กลับเป็นฮีโมโกลบินปกติจะน้อยกว่าในผู้ใหญ่ เด็กจึงเกิด methemoglobin ได้ง่ายกว่า
การตรวจเบื้องต้นจะพบว่าระดับออกซิเจนที่วัดปลายนิ้วจะต่ำอาจต่ำ 80-85% ได้ แต่เมื่อเจาะตรวจ arterial blood gas จะพบว่าระดับออกซิเจนอยู่ในระดับปกติ เรียกความแตกต่างของการพบระดับออกซิเจนที่ต่างกันจากการตรจทั้งสองวิธีว่า oxygen saturation gap ซึ่งอาจพบในภาวะอื่นได้ด้วยในที่ๆตรวจ arterial blood gas ไม่ได้ สามารถทำ bedside test โดยเจาะเลือดจากหลอดเลือดดำของผู้ป่วยมาพ่นออกซิเจน 2 LPM นาน 2 นาที ในคนปกติเลือดจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อได้รับออกซิเจน แต่หากเป็นผู้มี methemoglobin เลือดจะยังคงเป็นสีดำ
การตรวจยืนยันจำเพาะ สามารถระดับ methemoglobin ด้วย co-oximeter (ในเครื่อง arterial blood gas บางรุ่นจะพัฒนาการตรวจส่วนนี้เข้าไปด้วย)
การรักษาคือหยุดการได้รับสาร ให้ออกซิเจน และในรายที่รุนแรงอาจาพิจารณาใช้ยา methylene blue (มีในระบบยาต้านพิษ) ในผู้ป่วยบางรายอาจมีเม็ดเลือดแดงแตกรุนแรงจากการได้รับสารออกซิแดนท์ร่วมด้วยต้องมีการติดตามระดับเกลือแร่ ให้สารน้ำและเลือดทนแทน
#เตือนภัย
#เจอเคสพิษคิดถึงรามา
ขอบคุณ เปรมิกาก้า พาเพลิน และ Ramathibodi Poison Center