นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ในเพจ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ถึงเรื่อง ประสิทธิภาพของวัคซีน (ไม่ได้นับรวมวัคซีนเชื้อตาย)ในการป้องกันการเกิดอาการ ของโอไมครอน
ที่ 25 สัปดาห์หลังฉีดสองเข็ม
สายพี่ BA.1 = 9%
สายน้อง BA.2 = 13%
ที่ 2 สัปดาห์หลังฉีดเข็มสาม
สาย BA.1 = 63%
สาย BA.2 = 70 %
สาย BA.2 ไม่ได้ผันตัวมาจาก BA.1 แต่มาจากต้นกำเนิดเดียวกัน
ในประเทศเดนมาร์ก BA.2 จะเริ่มแซงหน้า สายพี่ และยังไม่ทราบข้ออธิบายว่าทำไมถึงแพร่ได้เร็วกว่า ทั้งนี้ข้อมูลในโลกความเป็นจริงทางระบาดวิทยาคราวนี้ จะมาก่อนข้อสันนิษฐานจากรหัสพันธุกรรมและโครงสร้าง ตามที่เคยมี
โดยที่รหัสพันธุกรรมของส่วนหนาม spike ไม่ได้มีการขาดวิ่นแบบ BA.1 (ซึ่งทำให้ตรวจและระบุการพบ BA.1 ได้ง่าย)
แต่เป็นที่คาดการณ์ว่าสายย่อยนี้น่าจะคล้ายกับสายพี่ BA.1 ในด้านความรุนแรงแม้จะแพร่ได้เร็วกว่า และถ้าคนที่ติดสายพี่ไปแล้ว ถ้าเกิดติดสายน้องใหม่ น่าจะมีอาการน้อยมาก และวัคซีนน่าจะมีประสิทธิภาพคล้ายคลึงกันกล่าวคือกันติดได้ไม่ดีนักและอาจได้ไม่นาน แต่ควรกันอาการหนักได้ดีพอสมควรยกเว้นคนสูงวัยและมีโรคประจำตัวทั้งหลายรวมทั้งโรคอ้วน
ข้อมูลส่วนหนึ่งมาจากด็อกเตอร์ จอห์น แคมป์เบล 31/1/65