สำหรับพ่อค้าแม่ค้าหรือไม่แม้แต่ผู้บริโภค รวมไปถึงผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่ต่างได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น มาก่อนหน้านี้เป็นเวลาเกือบ 1 เดือน และภายหลังจากเทศกาลวันตรุษจีน เนื้อหมูลดราคาลงแล้ว
จากการไปตรวจเช็คมาของทางทีมข่าวไทยนิวส์ออนไลน์นั้นก็พบว่า ราคาเนื้อหมูสามชั้นและเนื้อหมูสันในซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ปรับราคาสูงที่สุดกิโลกรัมละ 220 - 250 บาท ปรับลดราคาเหลือกิโลกรัมละ 200 บาท ส่วนหมูเนื้อแดงที่ปรับราคาขึ้นจากกิโลกรัมละ 200 บาท ลดเหลือกิโลกรัมละ 180 บาท แต่ยังถือว่าราคายังสูงกว่าราคาปกติ แต่มีแนวโน้มว่าจะลดราคาลงอีกเนื่องจากราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มมีราคาปรับลดลง
ซึ่งทางด้านของแม่ค้าก็ได้ออกมาสะท้อนถึงปัจจัยที่มีส่วนให้ราคาหมูลดลงก็เป็นเพราะว่า โครงการคนละครึ่งของรัฐบาลที่มีการใช้สิทธิคนละครึ่งตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ส่งผลให้ประชาชนกำลังซื้อเพราะจ่ายแค่ครึ่งเดียวจึงตัดสินใจที่จะซื้อเนื้อหมูได้ง่ายขึ้น
ทำให้ยอดขายในส่วนนี้เพิ่มขึ้นมามาก ทำให้มีเงินสะพัดเพิ่มมาขึ้น ทั้งประชาชน และพ่อค้า แม่ค้า ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งอยากให้มีโครงการคนละเพิ่มขึ้นอีก และต่อเนื่อไปจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว
โดยจากการไปเช็คล่าสุดกับทางสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ได้รายงานข้อมูล (สัปดาห์ที่ 6/2565) วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มยังคงได้รับแรงกดดันจากมาตรการรัฐ ห้องเย็นอิสระกดดันผู้ฝากเร่งระบายออก กระทบความต้องการสุกรขุนเข้าเชือดใหม่ การบริโภคเนื้อสุกร ลดลงไปกว่า 50% จากสารพัดปัจจัยที่รุมเร้า กดดันราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มให้อ่อนตัวลง
ต้นทุนหน้าฟาร์มปัจจุบัน(Q1/2565) เมื่อรวมส่วนเพิ่มระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ และสารเสริมต้านไวรัส เพิ่มภูมิคุ้มกันที่สูงขึ้นกว่าการคำนวณของคณะอนุกรรมการต้นทุนอีก 10 บาทต่อกิโลกรัม แบบซื้อลูกเข้าขุน ที่ 96.28 บาท/กก และแบบผลิตลูกเอง ที่ 94.69 บาท/กก
ภาคตะวันตก 94 บาท/กิโลกรัม
ขายส่งห้างค้าปลีก 150 กิโลกรัม
ขายปลีก 186-188 บาท/กิโลกรัม
ภาคตะวันออก 94 บาท/กิโลกรัม
ขายส่งห้างค้าปลีก 150 กิโลกรัม
ขายปลีก 186-188 บาท/กิโลกรัม
ภาคอีสาน 94-96 บาท/กิโลกรัม
ขายส่งห้างค้าปลีก 150-153 กิโลกรัม
ขายปลีก 186-192 บาท/กิโลกรัม
ภาคเหนือ 96 บาท/กิโลกรัม
ขายส่งค้าปลีก 153 กิโลกรัม
ขายปลีก 190-192 บาท/กิโลกรัม
ภาคใต้ 97 บาท/กิโลกรัม
ขายส่งห้างค้าปลีก 155 กิโลกรัม
ขายปลีก 192-194 บาท/กิโลกรัม
ลูกสุกรขุนเล็ก 16 กิโลกรัม วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 : 3,200 บวก/ลบ 92 บาท
ก่อนที่ในเวลาต่อมานั้น หลังจากที่ราคาหมูลดฮวบ ก็ปรากฎว่าทางรัฐบาลก็ออกมาชื่นชมวิธีของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าแก้ปัญหาได้สำเร็จ โดยทางด้านของ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ราคาเนื้อหมู ซึ่งเป็นสินค้าเฝ้าระวัง ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มมีการปรับราคาลงมาอย่างเห็นได้ชัด โดยราคาจำหน่ายหมูเนื้อแดง ส่วนสะโพก ไหล่ ไม่รวมหมูเนื้อแดงปรุงแต่ง อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 164-170 บาท ลดจากสัปดาห์ที่แล้ว ข้อมูลวันที่ 30 ม.ค. ที่ราคาเฉลี่ยทั้งประเทศ กก. ละ 187 บาท และตอนนี้เฉลี่ยทั้งประเทศเหลือ กก.ละ 175 บาท
ทั้งนี้เป็นไปตามการสั่งการของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้มีการกำกับติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า แก้ไขปัญหาและดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนและกระทำความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยได้มีการจัดชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจออกตรวจสอบห้องเย็น และโรงเชือด ที่ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) กำหนดให้แจ้งการเก็บสต๊อกเนื้อหมูตั้งแต่ 5,000 กก. ขึ้นไป โดยมีผู้แจ้ง 404 ราย มีเนื้อหมูในสต๊อก 15.5 ล้าน กก.
สำหรับรายที่ไม่แจ้ง ก็มีการตรวจสอบด้วย โดยตรวจรวม 616 ราย รวมมีเนื้อหมู 19.5 ล้าน กก. พบผู้กระทำผิด 12 ราย ส่งฟ้องและมีคำพิพากษาแล้ว 3 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 9 ราย นอกจากนี้ยังจัดชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจออกตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งในกรุงเทพฯ ได้ตรวจสอบตลาดสด 103 แห่ง ห้างค้าส่งค้าปลีก 101 แห่ง และในต่างจังหวัดได้ตรวจสอบทั้งตลาดสด และห้างสรรพสินค้า โดยรายที่พบการกระทำผิดกฎหมาย เช่น ไม่ปิดป้ายแสดงราคา ขายเกินราคา ได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
ขณะเดียวกัน ราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคจำเป็นอื่น ๆ เริ่มทยอยปรับราคาลงเช่นกัน อาทิ เนื้อไก่ ราคาจำหน่ายในห้างฯ เนื้อน่องติดสะโพก กก. ละ 65 บาท ส่วนในตลาดสด ราคาแตกต่างกันแต่ละพื้นที่ เฉลี่ยอยู่ที่ กก. ละ 70-75 บาท และคาดว่าแนวโน้มราคาจะยังทรงตัวต่อไป ส่วนน้ำมันพืชปาล์ม ราคาที่สำรวจจากร้านสะดวกซื้ออยู่ที่ขวดลิตรละ 64-65 บาท และในห้างฯ 61-62 บาท โดยราคามีแนวโน้มลดลงและทรงตัวในระดับนี้ต่อไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ผักสดมีราคาทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง ตามแต่ละพื้นที่ โดยมีต้นทุนค่าขนส่งเป็นตัวแปร ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคทั่ว ๆ ไป ราคาทรงตัว ยกเว้นภาคใต้ ที่ราคาอาจจะสูงกว่าภาคอื่นเล็กน้อย เนื่องจากมีต้นทุนในเรื่องค่าขนส่งจากระยะทางที่ไกล
“การสั่งการอย่างเร่งด่วน และแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ของท่านนายกฯ เพื่อให้มีการติดตามและดำเนินการโดยเร่งด่วน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ผ่านมาตรการต่าง ๆ ที่นำมาปรับใช้ อาทิ การเร่งให้มีการติดตามกรณีปัญหาราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น ผ่านกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การแก้ปัญหาราคาเนื้อหมูแพงทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว ด้วยการตรวจสอบสต๊อกเนื้อหมูอย่างเข้มข้นของเจ้าหน้าที่
การชะลอการส่งออกสุกร เพื่อให้มีปริมาณสุกรอยู่ในประเทศเพียงพอต่อความต้องการ การขึ้นทะเบียนฟาร์มสุกรกับผู้เลี้ยงรายเล็ก-ย่อย ตลอดจนการจัดทำบัญชีคุมสินค้า ซึ่งต้องแสดงปริมาณการเลี้ยง ปริมาณการซื้อ ราคาซื้อ ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณคงเหลือเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ ล้วนส่งผลให้เกิดการแก้ปัญหาราคาเนื้อหมูอย่างเป็นระบบ ทำให้มีการปรับราคาลงมาอย่างเห็นได้ชัด และคาดว่าจะลดลงอีก ซึ่งเป็นการจัดการอย่างเด็ดขาดและจริงจังของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”
ซึ่งทางรัฐบาลยังมีการดำเนินการต่อเนื่อง หลังจากที่ทางด้านของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จึงได้จัดโครงการ “เกษตรช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ” ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 - 19 กุมภาพันธ์ 2565 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ณ ลานกิจกรรมตลาดริมน้ำ อ.ต.ก. เลียบคลองบางซื่อ ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน ลดภาระค่าใช้จ่าย และบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ด้วยการจัดจำหน่ายหมูเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นหมูเนื้อแดง คุณภาพดี การันตีด้วยมาตรฐานปศุสัตว์ OK ในราคาถูกกว่าท้องตลาด เพียงกิโลกรัมละ 140 บาท ซึ่งจะนำมาจำหน่ายที่ตลาด อ.ต.ก. จำนวน 150,000 กิโลกรัม โดยกำหนดซื้อได้คนละไม่เกิน 5 กิโลกรัม เพื่อให้ทั่วถึงกันทุกคน
จุดขายหมูราคาถูก
ลานกิจกรรมตลาดริมน้ำ อ.ต.ก. เลียบคลองบางซื่อ ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. ระหว่างวันที่ 12 - 19 กุมภาพันธ์ 2565
ราคาหมู
กิโลกรัมละ 140 บาท นำมาจำหน่ายที่ตลาด 150,000 กิโลกรัม
เงื่อนไขการซื้อหมูถูก
ซื้อได้คนละไม่เกิน 5 กิโลกรัม
โดย กระทรวงและสหกรณ์พร้อมบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ และเครือข่ายภาคเอกชน เพื่อให้สถานการณ์ราคาหมูกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้เดินหน้าในหลายกิจกรรม เพื่อช่วยเหลือประชาชนในสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง
อย่างเช่น โครงการร้านข้าวแกง 20 บาท ที่ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่าโครงการ “เกษตรช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ” จำหน่ายหมูราคาถูกเพื่อประชาชนในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ได้สามารถบริโภคหมูที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม
ซึ่งจากข้อมูลที่ไทยนิวส์ออนไลน์ นำมาเปิดเผยก็คงต้องให้คุณผู้ชมนั้นตัดสินกันเอาเองว่า ที่ทางรัฐบาลนั้นเคลมว่าเป็นผลงานของรัฐนั้นจะจริงตามที่พูดไหมก็คงต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง