กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง บก.ป, พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว, พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์, พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี และ พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ รอง ผกก.1 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง สว.กก.2 บก.ป. ปฏิบัติราชการ กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.พศวัต ศรีสุขโข, ด.ต.สิทธิศักดิ์ แสนยะบุตร, ด.ต.อำนาจ ภพกาญจนกวี, ด.ต.ไพฑูรย์ เพ็ชรล้าน, ส.ต.อ.ชาตรี มากมูล และ ส.ต.ท.บรรพต มณีอินทร์ ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายวารฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 615/2563 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ลักทรัพย์ในเคหสถาน"
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าร้านขายอาหารแห่งหนึ่ง ถนนเทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 วันเกิดเหตุ นายวารฐ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ "บลู เยาวราช" ผู้ต้องหาซึ่งประกอบอาชีพเป็นช่างรับสักลาย ได้รับการว่าจ้างจาก นายนัท ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้อง ให้ตนไปสักลายให้ที่คอนโดบริเวณถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลบางรักใหญ่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งหลังจากสักลายเสร็จผู้เสียหายเกิดหลับไป ผู้ต้องหาจึงได้ลักเอากุญแจและรถจักรยานยนต์ ขับขี่หลบหนีออกไป
ต่อมาพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 615/2563 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2563 ในความผิดฐาน "ลักทรัพย์ในเคหสถาน" จนกระทั่ง วันที่ 18 ก.พ.65 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ป. สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหามาอาศัยอยู่บริเวณพื้นที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางแผน และเดินทางไปเฝ้ารอสังเกตการณ์พบผู้ต้องหา ยืนอยู่ร้านขายอาหารแห่งหนึ่ง ถนนเทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร จึงได้แสดงตัวและเข้าทำการจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาเคยมีประวัติก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีมาแล้วมากกว่า 20 คัน และเคยร่วมก่อเหตุปล้นทรัพย์ ชิงเอาโทรศัพท์มือถือโดยใช้อาวุธมีดอีกกว่า 15 ครั้ง รวมถึงคดีเสพและครอบครองยาเสพติดอีกหลายคดี มีประวัติจำคุกมาแล้วทั้งสิ้นรวม 9 ครั้ง ซึ่งล่าสุดเพิ่งจะถูกจับกุมโดย กก.2 บก.ป. เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2562 และพ้นโทษมาไม่นานก่อนก่อเหตุในครั้งนี้