จากรายงานเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า ชายชาวจีนรายหนึ่ง ที่ถูกลักพาตัวไปที่กัมพูชา ก่อนจะโดนบังคับให้สูบเลือดจำนวนมาก เพื่อขายให้แก๊งค้าอวัยวะจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ชายผู้เคราะห์ร้ายคือ นายหลี่ อายุ 31 ปี ก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ก่อนเชื่อโฆษณาหลอกสมัครงานในโลกออนไลน์ และได้เดินทางสถานที่ตามประกาศรับสมัคร เพราะหลงเชื่อว่าจะได้ทำงาน แต่เมื่อไปถึงกลับถูกแก๊งค้ามนุษย์ลักพาตัวไปชายแดนจีน-เวียดนาม ก่อนจะลงเรือไปประเทศกัมพูชา
-"หน่อย บุษกร" ประกาศ "ติดเชื้อโควิด-19" พร้อมขออภัยผู้ที่ใกล้ชิด
-สุดแสบ "เมียใหม่วัย18" เผาสูติบัตรลูกลงโซเชียล ทำเมียเก่าโกรธจัด
-ไรเดอร์เจอลูกค้า สั่งดอกไม้ในวันวาเลนไทน์ เห็นสถานที่ส่งถึงกับน้ำตาซึม
โดยชายผู้เคราะห์ร้ายถูกดูดเลือดออกจากร่างกายของเขาเดือนละครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 800 มิลลิลิตร เพื่อนำไปขายให้ผู้ซื้อทางออนไลน์ และเนื่องจากเขามีเลือดกรุ๊ปโอ ซึ่งเป็นกรุ๊ปที่ต้องการมากที่สุด ส่งผลให้เขาถูกเจาะเลือดออกไปบ่อยกว่าเหยื่อรายอื่นๆ ซึ่งหลี่ถูกดูดเลือดออกไปเป็นจำนวนมาก พร้อมโดนขู่ด้วยว่า หากไม่ไม่สามารถดูดเลือดออกจากร่างกายของเขาได้อีก ก็จะนำอวัยวะภายในของเขาไปขายแทน
ต่อมา นายหลี่ สามารถหลบหนีออกมาได้ด้วยความช่วยเหลือสมาชิกคนหนึ่งในแก๊งและชาวจีนในกัมพูชา ก่อนจะได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยอยู่ในสภาพที่ใกล้จะเสียชีวิต เนื่องจากอวัยวะหลายอย่างล้มเหลว ทางแพทย์พบว่า บริเวณแขนของเขาเต็มไปด้วยรอยช้ำและรอยเข็มหลังถูกเจาะเลือดออกไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าเขานั้นแทบไม่สามารถถูกเจาะเลือดบริเวณแขนได้แล้ว แพทย์จึงต้องเจาะเลือดจากบริเวณศีรษะแทน
ทั้งนี้ ปกติแล้วการบริจาคเลือดนั้น สามารถบริจาคได้ไม่เกิน 500 มิลลิลิตร และต้องใช้เวลานานถึง 1 เดือน เซลล์ของเม็ดเลือดแดงจึงจะสร้างตัวขึ้นมาจนเต็มตามจำนวนปกติอีกครั้ง ระยะเวลาการทิ้งช่วงของการบริจาคเลือดที่เหมาะสมตามคำแนะนำของสภากาชาดอเมริกัน คือประมาณ 2 เดือนครั้งเท่านั้น