จากกรณีที่พบร่างของ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวมากความสามารถที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ท จนดาราสาวจมน้ำเสียชีวิต ซึ่งต้องระดมกำลังตามหานานกว่า 36 ชั่วโมงกว่าจะพบร่างอันไร้วิญญาณของเธอ โดยเพื่อนที่ร่วมล่องเรือ แซน วิศาพัช พูดว่า โทรแจ้งกู้ภัยฯ แล้ว หลังแตงโม นิดา พลัดตกเรือ แต่จนท.มาช้ามาก
ล่าสุด กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผจก.ของแตงโม และ แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ เพื่อนที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ท ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน ซึ่งทาง กระติก เปิดเผยไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นว่า เริ่มต้นคือ ไฮโซปอ ที่เป็นเจ้าของเรือได้ ซึ่งเป็นเพื่อนเรามานาน ชวนไปเจอและพูดคุยกัน อารมณ์อยากเจอเพื่อนเก่า ซึ่งเราก็ไประดมเพื่อน อย่างโม แข น้อยโหน่ง กระติก
ซึ่งแขติดงานมาไม่ทัน เราจึงไปชวนแซนแทน เพราะเรากลัวคนน้อย แล้วไม่สนุก ขณะที่น้อยโหน่งเอง ก็ติดงานเช่นกัน จึงบอกให้เราไปกันก่อนเลย วันนั้นนัดกัน 4 โมง กระติกไปแต่งตัวบ้านโม และออกมาพร้อมกัน เราไปถึงเลตประมาณ 16.45 น. ซึ่งเราไปเจอเพื่อนปออีก 2 คน ซึ่งเขาก็แจ้งเราก่อนแล้วว่า จะพาเพื่อนไปด้วย ซึ่งเราโอเค เพราะไม่งั้นเขาก็จะเป็นผู้ชายคนเดียวในเรือ
หลังจากล่องเรือไปถึงร้านอาหาร ก็กินข้าวปกติ ถึงร้าน 6 โมงครึ่งได้ หลังทานเสร็จ ก่อนกลับทุกคนก็ไปเข้าห้องน้ำ เพราะเราไม่เห็นห้องน้ำบนเรือ และระยะทางไม่ใช่สั้นๆ แต่โมไม่ไป แม้เราจะชวนแล้ว เพราะเขายังไม่ปวด เขาก็เล่นโทรศัพท์ของเขาไป ขากลับออกจากร้านอาหารประมาณ 2 ทุ่ม ก็ลงเรือ แวะถ่ายรูประหว่างทาง จนเกิดเหตุเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ที่ใช้เวลานาน เพราะระหว่างทางเราแวะถ่ายรูป ซึ่งค่อนข้างใช้เวลานานพอสมควร
กระติก เล่าต่อไปว่า ตอนที่แตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ กระติกไม่เห็น เพราะเราหยุดถ่ายรูปกันแล้ว ตอนนั้นตัวเองกำลังนั่งชมบรรยากาศ เราเหนื่อยแล้ว เรือออกจากสะพานพระราม 8 กำลังจะเข้าอู่เรือแล้ว เพื่อนบอกว่าปวดฉี่ เราก็ว่าเพื่อน ทำไมตอนนั้นไม่ไป ซึ่งแตงโมก็บอกว่าตอนนั้นยังไม่ปวด ก่อนที่จะปล่อยเสียงสะอื้นออกมา
"เรายังว่าเลยไม่ปวดแต่มีฉี่ในกระเพาะ ทำไมไม่ไป แตงโมก็ยังแหะๆ แล้วเขาก็กลับไป โดยไม่ได้แสดงอาการว่าทนไม่ไหว เราก็ไม่ได้สนใจ ตอนนั้นเราสนใจแต่วิวแล้ว เพราะเราเสียเวลาไปกับการถ่ายรูปเยอะ เพราะอากาศดี ฟ้าใส ได้ยินเสียงอีกที คือ แซนตะโกน ซึ่งแซนอยู่ข้างหลัง ท้ายเรือ เราอยู่ด้านหน้า แล้วโมก็เดินไปข้างหลัง"
ผู้จัดการส่วนตัวแตงโม ระบุต่อไปว่า ตอนนั้นเราไม่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เราได้ยินเสียงแซนตะโกนแตงโมตกเรือ จากนั้นก็ได้ยินคุณจ็อบตะโกนแตงโมตกเรือ ก่อนคุณปอจะหักพวงมาลัยหมุนกลับ เพื่อไปตามหา นี่คือมุมที่กระติกเห็น
เมื่อถาม แซน วิศาพัช ว่า เห็นตอนที่แตงโมพลัดตกเลยไหม เธอเล่าว่า ลักษณะที่แตงโมตก คือ พลิกด้านข้าง โดยตอนนั้นเขาใช้มือสองข้างเกาะที่ขาตนไว้ ซึ่งตนนอนเล่นมือถืออยู่ เมื่อถามว่า แซน บอกว่า เราดื่มนิดหน่อย ส่วนแตงโมไม่ทราบว่าเมาหรือเปล่า ตอนเกิดเหตุเขาเดินมา แล้วนั่งลงไปเลย
"มันเร็วมาก เรายังไม่ทันได้บอกอะไรเลย เมื่อถามว่า แต่วันนั้นเขาใส่บอดี้สูท แซนจึงถามกลับว่า พี่ไม่เคยปัสสาวะรีบๆ ในชุดบอดี้สูทหรอ ถ้าเคยอาจจะทราบ เพราะถ้าอธิบายตอนนี้คงไม่สุภาพ ซึ่งตนก็ไม่ได้สังเกตว่าเป็นบอดี้สูทแบบไหน" แซน วิศาพัช ระบุ
ก่อนที่ กระติก จะเผยต่อว่า จากประสบการณ์รีบๆ มันแหวกข้างได้ ซึ่งเคยทำมาแล้ว และสะดวกที่สุด แต่เราไม่รู้ว่าเขาทำแบบนั้นหรือเปล่า ซึ่งเขาอยู่บนเรือ เป็นที่โล่งแจ้ง คงไม่มีใครที่จะถอดออกทั้งหมด ซึ่งแตงโมเขาใส่เสื้อโค้ทด้วย เพราะอากาศเริ่มเย็น เป็นตนก็จะเลือกแหวกข้าง
เมื่อถามว่า จังหวะที่ไปฉี่ เขาบอกเพื่อนหรือไม่ แล้วเรือแล่นด้วยความเร็วหรือไม่ กระติก ชี้แจงว่า ตนไม่ทราบ เขาไม่ได้บอก ทุกคนมองไปข้างหน้า รู้อีกทีคือตกแล้ว รู้จากแซนคือ เขาเดินมาแล้ว ก็นั่งเลย มันเร็วมาก ซึ่งเราก็เชื่อในตรงนี้ แต่เราไม่เห็นตอนเพื่อนตกลงไป ตอนแรกตนยังว่าแซนว่าเล่นอะไรกันหรือเปล่า แซนยังว่าตนกลับมาเลยว่าก็มันไม่บอก เราเลยเข้าใจ แล้วเลิกว่า คนปวดฉี่ใครจะมาประกาศ เพราะบนเรือก็มีผู้ชายอยู่ เราก็ไปวุ่นอยู่กับการค้นหา
ครั้นถามว่า ใครเป็นคนขับเรือ กระติก ตอบว่า เขาจะสลับกัน ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจ แต่ได้ยินเขาคุยกัน แต่ที่เราเป็นคือ โรเบิร์ตยืนอยู่ที่พวงมาลัย แล้วปอเขาก็หมุนพวงมาลัยกลับไปค้นหา แต่เขาก็จะยืนสอนกันตรงนั้นอยู่แล้ว ซึ่ง ไฮโซปอเป็นเพื่อนกับทุกคน รวมถึงแตงโมด้วย บนนั้นสนิทกันอยู่แล้ว ส่วนเพื่อนผู้ชายอีก 2 คนเราเพิ่งรู้จักวันนั้น เพราะปอบอกแล้วว่า เขาจะชวนเพื่อนมาด้วย เรากลัวเขาเหงา ก็ไปทำความรู้จักกันบนเรือวันนั้น แต่เราจะคุยกับไฮโซปอ และโรเบิร์ตเกี่ยวกับธุรกิจมากกว่า กับจ็อบน้อยที่สุด
อีกทั้งกระติกยังยืนยันว่า ไฮโซปอเป็นเจ้าของเรือ แล้วไฮโซปอมาชวนลงเรือ เราก็เลยชวนเพื่อนที่เราสนิท ซึ่งติก แตงโม น้อยโหน่ง จะนัดกันอยู่แล้ว แต่พอดีมีไฮโซปอเข้ามา เราก็เลยเลือกที่จะไปกับไฮโซปอ เพราะค่อนข้างเซฟ และส่วนตัว อีกทั้งน่าจะได้รูปด้วย
พร้อมยืนยันว่า ไม่มีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้องสักนิด มันเป็นการที่เพื่อนมีเรือ แล้วชวนไปลงเรือ ไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง เราก็แสดงความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว
นอกจากนี้ กระติกยังได้ ขอโทษทุกคนที่ไม่ได้ออกมาพูด เรากำลังโฟกัสไปกับเพื่อน ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น พร้อมระบุว่า ยังงงอยู่ว่าจะรู้สึกอะไรดี เธออยากร้องไห้ให้โม แต่เธอเองต้องมานั่งตอบคำถามสื่อ อยากขอความเห็นใจด้วย คนอื่นเสียเพื่อนไป ยังได้นั่งร้องไห้ คิดถึงเพื่อน
"แต่เราต้องมานั่งรีเช็คว่าตอนนั้นเราอยู่ที่ไหน เราอยากขอความเห็นใจด้วย เราก็ตอบอะไรไม่ได้มาก เพราะเราไม่เห็นตอนเขาตกลงไป กระติกก็โทษตัวเอง ที่ดูแลเพื่อนไม่ดี แต่เราก็อยากมีเวลาของตัวเอง ชมวิว แค่นั้นเอง ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลย นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่า แตงโมรู้จะมีโรเบิร์ต และจ็อบไปร่วมทริปด้วย เพราะตนเองเป็นคนบอก ซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจ" กระติกระบุ
เมื่อถามว่า สังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับการรับงานเอนฯ กระติกบอกว่า ไม่ใช่โดยสิ้นเชิง ไม่มีการรับงานใดๆ ทั้งสิ้น เราก็ไม่เข้าใจว่ามาได้อย่างไร เราบอกตำรวจไปแล้ว พร้อมยืนยันว่า ไม่มีประเด็นที่จะทะเลาะถึงขั้นจะผลักตกน้ำ เพราะเรารักเขามาก เขารับลูกเราเป็นลูกบุญธรรม และต้องเข้าใจว่า ถ้าเขาเสียชีวิต เงินกระติกก็จะหายไปด้วย เขาช่วยเรามาตลอด เราก็เหมือนทุบหม้อข้าวตัวเอง คนเราจะหาความลำบากมาให้ตัวเองหรอ ก็อยากให้คิดถึงตรงนี้ด้วย
ส่วนประเด็นที่ว่า กระติกไม่ได้โทรหาแม่ คือ เราไม่ได้สนิทกับแม่ขนาดนั้น เราจะสนิทกับพ่อมากกว่า แต่เราเข้าใจเหมือนกันที่คุณแม่เคือง และแม่ก็ไม่ได้กว้างขวางขนาดที่จะมาช่วยเราตรงนั้นได้ เราไม่ได้คิดถึงแม่เลย ซึ่งอยากให้แม่เข้าใจตนด้วย
เมื่อถามว่า ใครเป็นคนเขียนชื่อแตงโม ให้ตำรวจในวันนั้น แซน บอกว่า ตนเป็นคนเขียน แต่ที่ไม่ได้เขียนว่า แตงโม นิดา เพราะเราก็ไม่ได้ติดตามว่าเขาเปลี่ยนชื่อแล้ว รู้อะไร ก็เขียนไปแบบนั้น ซึ่งแซนก็ไม่รู้เลยว่า เขาพบศพตรงไหน เพราะไม่ได้ตามโซเชียล จุดที่เราวนหาเรือ คือจุดที่แตงโมปวดฉี่
ทว่าเมื่อถามว่า ทำไมไม่กลับเรือไปที่อู่ เพราะห่างไม่เยอะ แซนบอกว่า ตนไม่ทราบ ตอนนั้นเราก็แจ้งทุกคนที่สามารถช่วยเราได้ 191 และโทรให้เพื่อนบนบกช่วย มีหลักฐานการโทร ที่ดีที่สุดในเวลานั้น ส่วนที่กู้ภัยบอกว่าไม่มีข้อมูล นี่ก็งงว่ากู้ภัยทำไมบอกไม่มีข้อมูล เพราะมีหลักฐานว่า เขาโทรมาหาเรา 3 รอบ แล้วเราก็บอกไปหมดแล้ว และกว่าจะมาถึงใช้เวลานานมาก ซึ่งเธอเองก็งงว่า ทำไมกู้ภัยฯ ถึงมาถึงที่เกิดเหตุช้า
นอกจากนี้ แซน ยังอธิบายต่อว่า ตอนนั้นเรือไม่ได้ขับเร็ว เรานอนเล่นมือถืออยู่ ซึ่งเราโฟกัสกับมือถืออยู่ เรารู้แค่ว่า โมกำลังลุก แล้วเสียหลักตก แล้วเราก็กรี๊ด ตะโกนบอกแตงโมตกน้ำ แล้วเขาก็หักเรือกลับมาช่วย
ด้าน กระติก บอกด้วย หลังรู้เราก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็ไม่ได้ถามไรมากมาย เพราะมันเสียเวลา เราก็ไปวุ่นกับการหามากกว่า ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าในเรือมีห้องน้ำ ถึงต้องเข้าห้องน้ำตั้งแต่ที่ร้านอาหาร ที่ไม่ได้ใส่ชูชีพ เพราะเราก็ใส่เสื้อคลุม เวลาถ่ายรูปยังต้องถอดเข้าถอดออก เราก็เลยไม่ได้ใส่ เพราะเราก็อยากถ่ายรูปสวยๆ
ส่วนข้อสงสัยเรื่องโทรศัพท์ หลังเกิดเหตุอยู่ที่ไหน แซนบอกว่าก็อยู่ในกระเป๋า ด้านกระติก ยืนยันว่า ความจริงมันจะปรากฎ เราไม่ได้จับ หรือแตะต้อง เพราะมันเป็นของเพื่อนเรา เอาไปคืนให้แม่บ้านแล้วก็จบ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเสริมว่า เรื่องโทรศัพท์ เราให้ ปอท. เก็บรักษา และข้อมูลไม่ไปไหน จะพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์
อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีที่แม่อ้างว่า มีเพื่อนพยายามเรียกคุณแม่ไป และบอกให้แม่ปิดข่าว กระติกยืนยันว่า เพิ่งเจอแม่เมื่อคืน เรื่องนี้ต้องให้คุณแม่มาชี้ตัว ขณะที่แซนเอง ก็ยืนยันว่าไม่รู้