"หมอธีระ" รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ ระบุว่า
1 มีนาคม 2565
ทะลุ 436 ล้านแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 954,157 คน ตายเพิ่ม 4,959 คน รวมแล้วติดไปรวม 436,819,734 คน เสียชีวิตรวม 5,973,787 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีใต้ รัสเซีย เยอรมัน ตุรกี และญี่ปุ่น
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ/ใต้ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 95.8 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 94.35
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปเอเชียนั้นสูงกว่าทุกทวีป โดยคิดเป็นร้อยละ 47.59 จำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 34.34
ในขณะที่ยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 40.21 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 41.25
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 10 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก
...ภาพรวมของการระบาด
ค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์ ทั่วโลกมีจำนวนติดเชื้อใหม่ลดลงร้อยละ 15 และตายลดลงร้อยละ 17
แต่ทวีปเอเชียนั้น ยังมีติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 แต่ตายลดลงร้อยละ 3
ส่วนเมืองไทยนั้น ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 และตายเพิ่มขึ้นร้อยละ 42
...สถานการณ์ระบาดของไทย
เมื่อวานนี้หากดูเฉพาะจำนวนติดเชื้อยืนยัน จะสูงเป็นอันดับ 10 ของโลก
แต่หากรวม ATK ด้วย จะพุ่งไปถึงอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 4 ของเอเชีย
...ปัญหาเรื่อง Long COVID จะเป็นภาระระยะยาว
ความรู้ทางการแพทย์มากขึ้นเรื่อยๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าหลังการติดเชื้อโรคโควิด-19 ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนที่ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ มีอาการน้อย หรือมีอาการรุนแรง ก็จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาความผิดปกติในระบบต่างๆ ของร่างกาย ทั้งเรื่องโรคหลอดเลือดสมอง หัวใจขาดเลือด การเต้นหัวใจผิดจังหวะ ลิ่มเลือดอุดตัน อ่อนเพลียอ่อนล้า มีปัญหาเรื่องความคิดความจำ หายใจเหนื่อย หรือความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร ระบบต่อมไร้ท่อ รวมถึงปัญหาด้านจิตเวช เช่น เครียด ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ในระยะยาวได้
Long COVID เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ
หญิงเสี่ยงมากกว่าชาย ผู้ใหญ่เสี่ยงมากกว่าเด็ก
แม้มีงานวิจัยจากต่างประเทศที่ใช้วัคซีนประสิทธิภาพสูง ว่าการฉีดสองเข็มแล้วจะช่วยลดโอกาสเกิด Long COVID ได้ แต่ก็ป้องกันได้เพียงบางส่วน ดังนั้นการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อย่อมจะเป็นการดีกว่าหวังพึ่งผลลดความเสี่ยงจากวัคซีนแต่เพียงอย่างเดียว
ความผิดปกติระยะยาวนั้น จะส่งผลกระทบต่อการทำงาน การเรียน รวมถึงการดำเนินชีวิตประจำวัน บั่นทอนสมรรถนะในการใช้ชีวิต และเป็นภาระค่าใช้จ่ายระยะยาวต่อคนที่เป็น ครอบครัว และประเทศ
จึงเป็นที่มาของการที่แพทย์ออกมาย้ำเตือนเรื่องการป้องกันตัวเองและครอบครัวอย่างเคร่งครัด เป็นกิจวัตร
ใส่หน้ากากนะครับ เว้นระยะห่างจากคนอื่น พบปะคนเท่าที่จำเป็น ใช้เวลาสั้นๆ เลี่ยงการกินดื่มหรือแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่น
หากไม่สบาย ควรบอกที่บ้านที่เรียนที่ทำงาน หยุดเรียนหยุดงาน และไปตรวจรักษาให้หายดีเสียก่อน