จากกรณีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทเหมือนจะเริ่มเดินทางเข้าสู่จุดคลี่คลายเข้าทุกที เนื่องจากก่อนหน้านี้ โบ ทีเค ได้ให้ปากคำกับตำรวจคดีการเสียชีวิต แตงโม นิดา ซึ่งจากรายละเอียดที่เธอให้การ ระบุว่า เพื่อนๆ แก๊งสปีดโบ๊ทบิดเบือนข้อมูลไปเยอะมาก อีกทั้งยังแจงความสัมพันธ์ไฮโซปอ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล กล่าวถึงกรณีที่ แตงโม นิดา พลัดตกเรือในรายการ "ถกไม่เถียง" ที่มี ทิน โชคกมลกิจ เป็นพิธีกร ได้ถกประเด็นที่เพื่อนอ้างว่าไปฉี่ซึ่ง นายสันธนะ ระบุว่า ตนก็ไม่เชื่อเช่นกันว่า แตงโมจะไปปัสสาวะท้ายเรือจริง
และนอกจากนี้ เชื่อว่าหากมีการทิ้งเวลานานไปกว่านี้ ไม่มีการนำตัวคนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จ อาจจะจับพิรุธได้น้อยลง เมื่อมีข่าวแตงโมตกน้ำเสียชีวิต ผมคุยกับคนข้างในว่า น้องกระโดดน้ำไปเอง หรือโดนผลักตกน้ำ
เมื่อมองลงไปว่า ประจักษ์พยานเหลือ 5 ชีวิต 1 ชีวิตเสียไปแล้ว คนนึงเป็นนักธุรกิจ รู้จักกับบิ๊กที่ปรึกษาระดับประเทศ คนต่อมานักธุรกิจอยู่ในวงการพูดน้ำไหลไฟดับใครพูดก็ต้องเชื่อ ผู้ชายอีกคนเป็นลูกน้องของนายคนนี้
ส่วนผู้หญิงอีก 2 คนที่เหลือก็อย่างที่ทราบ ฉะนั้นน่าจะเดาทางได้ ที่ผมรู้มาคือน่าจะมีตัวละครมากกว่านี้ และมีบิ๊กผู้ใหญ่คนนึงอยู่ในห้องพักโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา และจากคำให้การที่ผ่านมา ยิ่งให้การมากขึ้นก็ยิ่งมีพิรุธ
-ทัวร์ลง "ครูสอนภาษา" หลังอัดคลิปในหัวข้อ ถึงแตงโมจะน่าสงสาร แต่เขาทำตัวเอง
-"โบ TK" แจงแล้ว ปมความสัมพันธ์ "ไฮโซปอ" สามีเบนซ์ พริกไทย
-"คดีแตงโม" พบพิรุธ 47 ข้อ หลังไทด์ เผยว่าจู่ๆมีคำสั่งให้นำร่างไปชันสูตร
นายสันธนะ ระบุต่อไปว่า ประเด็นตกเรือเพราะนั่งปัสสาวะท้ายเรือ ถ้าคุณจะปัสสาวะก็แค่บอกให้เขาเทียบท่า คุณนั่งสปีดโบ๊ทนะไม่ได้นั่งเรือจ้าง และยิ่งแตงโมเป็นนักแสดง เขาคงไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อขนาดนั้น ผู้ชายบนเรือก็ไม่ได้รู้จักกัน เรือลำนี้ใครเคยขึ้นก็ต้องทราบ แมวตกเรือก็ยังเห็นเลย เป็นเพื่อนกัน ไปด้วยกัน ผู้หญิงตกน้ำทั้งคน ไม่เห็นมีใครตัวเปียกสักคน หรือใส่ชูชีพโดดลงไปช่วย ไม่มีเลยสักคน เรื่องนี้ถ้ามีคนนึงรับผิด รับรองโดนรวบทุกคน
วันนั้นกรุ๊ปนี้ 6 โมงเย็น ออกเรือไปดินเนอร์ เปิดแชมเปญ ดื่มไวน์ 2 ทุ่มลงเรือ มีภาพ แตงโม นิดา ที่กำลังฟินๆ พอเห็นได้บรรยากาศปั๊บมีการพูดขึ้นมา แต่ด้วยความเป็นตัวตนของน้องแตงโม เขาหวี๊ดแตกทันที ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่นะ ต้องมีเหตุการณ์
"ขณะเดียวกัน 4 ทุ่ม บิ๊กผู้ใหญ่ที่อยู่ในห้องโรงแรมหรูริมน้ำบอกชักดึกแล้วนะ เมื่อไหร่จะเทียบท่าสักที ดึกกว่านี้เดี๋ยวหัวแตกกลับบ้านดึก ก็ถึงไม่เทียบท่าสักทีไง เทียบท่าเสร็จไม่ได้ขึ้นไปทั้งลำ ถ้าน้องเขาขึ้นไปที่ท่าโรงแรมหรูก็จะมีอีกคนเป็นเพื่อนพาขึ้นไปเข้าด้านหน้าไม่ได้ ต้องเข้าหลังโรงแรม อันนี้เป็นพล็อตของผม ถ้าหากว่าใครที่เกี่ยวข้องในคดีช่วยทำให้ความจริงปรากฎหน่อย"
ขณะที่ แอนนา ระบุว่า ถ้าโมรู้ว่าต้องเจอเหตุการณ์แบบนั้น โมจะต้องโวยวายไม่ยอมแน่นอน เพราะโมเป็นคนที่ไม่ยอมอ่อน ยอมหักไม่ยอมงอ คือเปรียบเปรยว่า ฆ่าฉันเถอะถ้าจะให้ฉันทำอะไรแบบนั้น โมเป็นคนนิสัยแบบนั้น แอนตี้เรื่องแบบนี้ ถ้าเขาเป็นคนรับงานแบบนี้เขาคงไม่มีฐานะที่แบบปานกลาง
คดีนี้พยานหลักฐานมันได้ถูกแปรเปลี่ยนไทม์ไลน์ไปจนเกือบสิ้นแล้ว นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ คุณต้องอายัดเรือ อายัดตัวทุกคนที่เกี่ยวข้องไปตรวจแอลกอฮอล์ ไปตรวจร่างกาย แต่กลับปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป ซึ่งมันมีสัญญาณตั้งแต่แรกที่เกิดเหตุแล้ว มันถึงมีการคิด การวางแผนและเวลาที่น้องพูดเพื่อนตกเรือ แต่พอตี 3 ก็แยกย้ายกันไปแล้ว ไม่ดูเพื่อนเลย มันมีอีกหลายพิรุธ ถึงความผิดปกติเหล่านี้
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการถกไม่เถียง