จากกรณี ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ยืนยันให้ข้อมูลกับตำรวจหลังปฏิเสธรับทำคดีให้กับกลุ่มเพื่อนของ แตงโม นิดา เชื่อทำให้กลุ่มนี้ไม่พอใจ นอกจากนี้ ยังย้ำให้ตำรวจไปจำลองเหตุการณ์เพิ่มเติมเพื่อเทียบเคียงร่องรอยบาดแผลที่พบบนร่างของแตงโม ภัทรธิดา
ทางด้าน ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เปิดเผยหลังให้ปากคำกับตำรวจ ในคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ โดยตำรวจได้สอบถามในประเด็นกรณีที่กลุ่มเพื่อนของแตงโม มาติดต่อขอความช่วยเหลือหลังเกิดเหตุ ว่ามีการพูดคุยกันอย่างไรในรายละเอียดไปบ้าง โดยให้ข้อมูลกับตำรวจไปหมดแล้ว
ทั้งนี้ ส่วนตัว เชื่อว่าเพื่อน 2 คนของแตงโม ไม่พอใจที่ตัวเองให้ข้อเท็จจริง ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลทั้งสองจึงทำให้ทั้งสองคนไม่พอใจอีกทั้ง ส่วนตัวยังรู้จักกับแตงโม จึงไม่รับสามารถรับทำคดีให้ได้
ส่วนการปรึกษาทนายความของกลุ่มเพื่อนของแตงโม ก่อนเป็นคดีความ ไม่ถือว่า ผิดปกติ เพราะทุกคนสามารถปรึกษาทนายความ ก่อนเกิดคดีความได้อยู่แล้ว
ทนายตั้ม ยังได้เสนอให้ตำรวจนำเรือไปจำลองเหตุการณ์ โดยใช้วัสดุ เช่นซิลิโคน เพื่อดูว่ามีร่องรอยบาดแผลใกล้เคียงกับบาดแผลของผู้เสียชีวิตหรือไม่ และยังตั้งข้อสังเกตให้ตำรวจไปสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟินใต้ใบพัดเรือ มากกว่าใบพัดของเรือ ที่จะทำให้เกิดร่องรอยบนบาดแผลที่พบบนร่างผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้ทนายตั้มยังให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อกฏหมาย กรณีที่แม่ของแตงโม จะขอเป็นผู้จัดการมรดก ตามขั้นตอนต้องยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่ง ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 3 เดือน และพี่ชายของแตงโม สามารถเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับคุณแม่ได้
แต่แม่ของแตงโม ไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงกรมธรรม์ เพื่อจะรับผลประโยชน์ของลูกบุญธรรมได้ เพราะเป็นเจตนาของแตงโม ที่จะทำให้กับลูกบุญธรรม ตั้งแต่แรกแล้ว
นอกจากนี้ แม่ของแตงโม ยังมีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย แต่การที่จะรับเงินเยียวยาในส่วนนี้ ย่อมมีผลผูกพันกับคดีอาญาและทางแพ่งในอนาคตทำให้น้ำหนักของคดีลดน้อยลงได้