หลายคนยังคงให้ความสนใจกับประเด็นการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทจมกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้ทางครอบครัว เพื่อนสนิทเพื่อนร่วมวงการ ชาวเน็ต ต่างพากันสงสัยถึงสาเหตุของเรื่องราวต่างๆ อีกทั้งล่าสุดเกิดมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักการเรียกเงินค่าสินไหมชดเชยของ คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ของแตงโม
ล่าสุด ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้เคลื่อนไหวทางเพจเฟซบุ๊กถึงการเรียกค่าสินไหมทดแทน โดยระบุว่า การเรียกค่าสินไหมทดแทน ในกรณีที่มีผู้อื่นทำให้ลูกตาย แม่สามารถเรียกค่าทดแทนตามกฎหมายได้ เท่าที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เท่านั้น ไม่ใช่ว่าอยากเรียกเท่าไหร่ตามอำเภอใจ โดยไม่มีกฎหมายรองรับได้ทุกอย่างนะครับ
ในกรณีที่บุตรเสียชีวิตทันที โดยไม่มีการรักษาพยาบาลก่อนเสียชีวิต กฎหมายให้เรียกค่าสินไหมทดแทน ได้ 2 กรณี คือ
1. ค่าปลงศพ หรือค่าจัดการงานศพ
2. ค่าขาดไร้อุปการะเลี้ยงดู
นอกจากนั้นไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ ต่างจากกรณีผู้ถูกละเมิด บาดเจ็บไม่ถึงตาย แต่ขาดรายได้ ขาดประโยชน์จากการทำงาน แบบนี้สามารถเรียกได้ เช่น แตงโม อายุ 30 มีรายได้เดือนละ 150,000 บาท ร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคภัยประจำตัว หากไม่เสียชีวิตก่อนจะมีอายุยืน และ ทำงานต่อไปได้ไม่น้อยกว่า 30 ปี (นับถึงอายุ 60 ปี) แบบนี้ฟ้องเรียกค่าสินไหมดแทนได้หลายอย่างรวมทั้งค่าขาดรายได้ เดือนละ 150,000 x12 x 30 ได้ด้วย
แต่ในกรณีที่ลูกตาย แม่จะเรียกค่าสินไหมแบบนั้นไม่ได้ แม่เรียกได้แต่ค่าจัดการงานศพ และค่าขาดไร้อุปการะเลี้ยงดูเท่านั้น สมมุติว่าขณะน้องมีชีวิตอยู่ ส่งเสียแม่เดือนละ 15,000 บาท ขณะนี้แม่อายุ 60 ร่างกายแข็งแรง คาดว่าจะมีชีวิตถึง 70 ปี แบบนี้แม่เรียกได้แค่เดือนละ 15,000 เป็นเวลา 10 ปี ไม่ใช่คำนวนจากรายได้ลูกและอายุของลูก นะครับ แม่ควรมีทนายความนะครับ แม๊...
(มาตรา 443 ในกรณีทำให้เขาถึงตายนั้นค่าสินไหมทดแทนได้แก่ ค่าปลงศพรวมทั้งค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่นๆอีก #ถ้ามิได้ตายในทันที ค่าสินไหมทดแทนได้แก่ค่ารักษาพยาบาลรวมทั้งค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์ทำมาหาได้เพราะไม่สามารถประกอบการงานนั้นด้วย #ถ้าว่าเหตุที่ตายลงนั้นทำให้บุคคลหนึ่งคนใดต้องขาดไร้อุปการะตามกฏหมายไปด้วยไซร้ ท่านว่าบุคคลคนนั้นชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น)
ขอบคุณ FB : ทนายเกิดผล แก้วเกิด