พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น./รอง โฆษก บช.น. ขอประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนทราบ ตามที่มีข่าวปรากฎตามสื่อต่างๆ กรณีเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 เวลาประมาณ 17.00 น. มีเหตุชายหนุ่มขับขี่รถยนต์มาจอดกีดขวางบริเวณถนนราชดำริ หน้าห้างสรรพสินค้าฯ ใกล้แยกราชประสงค์ โดยมีพฤติการณ์คุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายตนเองและปล่อยงูเห่าลงบนถนนสร้างความแตกตื่นแก่ประชาชนผู้พบเห็นนั้น
โดยในวันเวลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งเหตุและเข้าไประงับเหตุโดยทันที เมื่อเข้าตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการบาดเจ็บ จึงได้ส่งตัวผู้ก่อเหตุไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฎหมาย และพิสูจน์ทราบว่าผู้ก่อเหตุรายตังกล่าว ชื่อนายคเณศพิศณุเทพฯ อายุ 47 ปี หรือที่รู้จักกันในฉายา "เคร้อยล้าน" ซึ่งได้เคยก่อเหตุกรณีเช่นเดียวกันมาก่อนโดยพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ประสานให้ญาตินำตัวผู้ก่อเหตุมาพบทันที หลังจากแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล แต่ใด้สืบทราบต่อมาว่านายคณศพิศณุเทพฯ ได้เดินทางออกนอกประเทศไป
ต่อมาวันที่ 6 มี.ค. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ้ายสืบสวน สน.ลุมพินี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ได้สืบทราบว่า นายคเณศพิศณุเทพฯ ได้โดยสารเครื่องบินจากประเทศอินเดียเข้ามายังประเทศไทย จึงร่วมกันวางแผนเข้าทำการจับกุมตัวตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ฯ ในข้อหา
1. พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุอันสมควร
2. ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ
3. จอดรถในลักษณะกีดขวางการจราจร
4. ทิ้งสิ่งปฏิกูลมูลฝอยลงบนพื้นที่สาธารณะ
5. มีสัตว์ป่าควบคุมและสัตว์ป่าอันตรายไว้ในครอบครอง
6. ทิ้งหรือปล่อยเป็นอิสระซึ่งสัตว์ป่าควบคุมและสัตว์ป่าอันตราย
โดยสามารถจับกุมได้บริเวณ ท่อากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อนำตัวมารับการตรวจประเมินและรักษาตามคำร้องขอของแพทย์ที่มีหนังสือมายัง สน.ลุมพินี เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2565 โดยพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี จะต้องรอผลการวินิจฉัยจาก แพทย์สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยาก่อน จึงจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้เน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า จะมุ่งเน้น การป้องกันอาชญากรรม ให้กับพี่น้องประชาชน และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งทำการ สืบสวน ติดตามจับกุม คนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดี หากพบเห็นหรือมีเบาะแสกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่เพื่อดำเนินการต่อไป
cr.ภาพ nationonline