พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 9 มีนาคม 2565 - 15 มีนาคม 2565
การคาดหมายในช่วงวันที่ 10 - 13 มี.ค. 65 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 14-15 มี. ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ที่เข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางจะมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 14-15 มี. ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมทั้งฟ้าผ่าที่จะเกิดขึนได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ภาคเหนือ
ในวันที่ 9 - 14 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 15 มี. ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 10 - 13 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 15 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 9 - 14 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 15 มี. ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 9 - 13 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 15 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 10- 12 มี.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1- 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 13 - 15 มี.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 10– 12 มี.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 13 - 15 มี.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 9 - 13 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 15 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ขอบคุณ กรมอุตุนิยมวิทยา