เรียกได้ว่ามีเรื่องให้ต้องติดตามกันอีกกับประเด็นที่โลกออนไลน์สนใจกันอย่างมาก สำหรับเรื่องราวของแพทย์หญิงชื่อดังด้านความงามท่านหนึ่งที่เรามักจะเห็นเธอขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อยู่บ่อยๆ พร้อมกับกระแสต่างๆบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง อาชญากรรม โควิด หรือแม้แต่แนวคิดเรื่องการตอบแทนพระคุณพ่อแม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่แพทย์หญิงท่านนี้ โดนชาวโซเชียลจวกยับเต็มๆ กับความคิดของเธอ
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก “หมอขอบ่นหน่อยเหอะ-AggressiveDoctor” ได้ออกมาเผยแพร่ภาพเอกสารเก่าที่เคยตกเป็นข่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง อ้างว่าเป็นของ “แพทยสภา” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับมติคณะกรรมการให้พักใบอนุญาต “คุณหมอท่านหนึ่ง” เป็นเวลา 3 เดือน จากปัญหาร้องเรียนของลูกค้าเรื่องการเสริมความงาม
โดยภายในเอกสารฉบับดังกล่าว ระบุข้อความว่า ลงวันที่ 29 ส.ค.2564 เรื่อง “แจ้งมติคณะกรรมการแพทยสภา” ตามที่ท่านได้ทำคำร้องยื่นต่อแพทยสภา ท่านได้เข้ารับหัตถการร้อยไหมบริเวณใบหน้า ฉีดคางและขมับ ใส่สปริงร่องแก้ม แก้ไขปัญหาคางสั้นถดถอย ที่สถานพยาบาล สาขาทองหล่อ โดยแพทย์ผู้ทำการรักษา แจ้งว่า ใช้ไหมทองคำในการรักษา แต่ปรากฎว่าเป็นเพียงไหมละลายเคลือบทอง
อีกทั้งการรักษาส่วนอื่น ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน และการรักษาไม่ได้ผลตามที่กล่าวอ้าง แต่เก็บค่ารักษาในราคาสูง ทั้งที่ไม่ได้ใช้วัสดุตามที่ตกลง และยังปกปิดชื่อยี่ห้อของเวชภัณฑ์ที่ใช้ทำการรักษา ทำให้ผู้เข้ารับการบริการหลงผิดจ่ายค่ารักษาในราคาที่สูง แต่ผลการรักษาไม่เป็นไปตามที่แพทย์กล่าวอ้าง และผู้รักษาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญตามสาขาที่กล่าวอ้าง ขอให้แพทยสภาตรวจสอบมาตรฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรมของผู้ถูกร้องนั้น
-บีบหัวใจ วันเกิดลูกอยากกินชาบูแต่เงินไม่พอ ตัดใจกลับบ้าน สุดท้ายน้ำตาคลอ
-"แอนนา-ฮิปโป" ขนลุก "ริว-เจน" สื่อสาร "แตงโม" กลางรายการดัง
-หนุ่มประกาศ "ตามหาสาวสวยในภาพ" อยากขอบคุณที่ช่วยเหลือ
ในการนี้แพทยสภาได้ดำเนินการพิจารณาคำร้องดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมการแพทยสภาในการประชุมครั้งที่ 5/2564 วันที่ 8 เม.ย.2564 มีมติลงโทษพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม “แพทย์หญิง” ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565-31 มี.ค.2565
“กรณี 1.มาตรฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2.หลอกลวงให้หลงเข้าใจผิด เพื่อประโยชน์ของตน 3.ไม่คำนึงถึงความสิ้นเปลืองของผู้ป่วย เป็นระยะเวลา 3 เดือน”นอกจากนี้ เพจดังกล่าวยังเขียนข้อความอ้างอีกว่า “มีวงในแจ้งว่า ไม่ได้โดนพักแค่ 3 เดือน ตอนนี้แน่ๆ แล้ว 6เดือน มีคดีรอพิจารณาอีกเพียบ สิริรวมแล้วอาจโดน 2-3 ปี”
หลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาทัน ส่วนใหญ่ต่างพากันเดาทายชื่อ “แพทย์หญิง”คนดังกล่าวว่าเป็นใครกันแน่