แนวทางการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
-อายุ 18 ปีขึ้นไป รับเข็ม 3 หลังฉีดเข็ม 2 3 เดือนขึ้นไป
รับเข็ม 4 หลังฉีดเข็ม 3 4 เดือนขึ้นไป
-อายุ 12 – 17 ปี
รับเข็ม 3 ชนิด mRNA ขนาดโดสมาตรฐาน ห่างจากเข็ม 2 4-6 เดือนขึ้นไป
-ผู้ที่มีประวัติติดเชื้อโควิด มาก่อน ให้ฉีดวัคซีนหลังติดเชื้อเป็นเวลา 3 เดือน
นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ได้ประชุมและมีคำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น ดังนี้
1.กลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป ให้ฉีดเข็ม 3 ห่างจากเข็ม 2 ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปในวัคซีนทุกสูตร และฉีดเข็ม 4 ห่างจากเข็ม 3 ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป โดยหากฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์ สามารถเลือกฉีดแบบครึ่งโดสได้ ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์และความสมัครใจของผู้รับวัคซีน
2.กลุ่มอายุ 12-17 ปี ให้เข้ารับวัคซีนชนิด mRNA เป็นเข็ม 3 โดยใช้ขนาดโดสมาตรฐาน มีระยะห่างจากเข็ม 2 เป็นเวลา 4-6 เดือนขึ้นไป สอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกและราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และ
3.ผู้ที่มีประวัติติดเชื้อโควิด 19 มาก่อน ให้ฉีดวัคซีนตามหลักการเดียวกับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อ โดยให้วัคซีนหลังติดเชื้อเป็นเวลา 3 เดือน
กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญเร่งรัดฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้สูงอายุ เพื่อเตรียมความพร้อมรับเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากผู้สูงอายุมีความเสี่ยงติดเชื้อและเสียชีวิตสูงกว่ากลุ่มอื่น โดยผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ฉีดไม่ครบ หรือไม่ได้รับเข็มกระตุ้นจะมีความเสี่ยงมากขึ้น ขณะนี้ได้สั่งการไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด เร่งรัดค้นหาผู้สูงอายุในพื้นที่ที่ต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นและที่ยังตกหล่น โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนผู้ที่ครบกำหนดฉีดเข็มกระตุ้นให้ได้อย่างน้อย 70% ก่อนเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งได้เตรียมวัคซีนไว้ถึง 3 ล้านโดส และจัดบริการฉีดวัคซีนทั้งในสถานบริการและฉีดเชิงรุกในพื้นที่ พร้อมบูรณาการทุกภาคส่วน เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน สภาอุตสาหกรรม และภาคเอกชน เพื่อค้นหาและให้บริการฉีดวัคซีนประชาชน สื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจ รวมถึงจัดงานรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ผู้สูงอายุรับรู้ในวงกว้าง
ที่มา กระทรวงสาธารณสุข / ศูนย์ข้อมูล COVID-19