เปิดสิ่งที่ พ่อแม่ให้ "น้องอุ้ย" ก่อนหายเงียบ หนีหนี้ไปตุรกี
เปิดสิ่งที่ พ่อแม่ให้ "น้องอุ้ย" ก่อนครอบครัว 4 ชีวิต จะหายเงียบบินหนีหนี้ไปตุรกี โดยทิ้งลูกสาวคนโตไว้คนเดียชียว
จากกรณีที่ พ่อแม่ลูก 4 คน นายนิรุตน์ บุญชู อายุ 41 ปี นางสาวนฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี ด.ช.นฤเบศก์ บุญชู อายุ 12 ปี และด.ญ.หริญดา บุญชู อายุ 7 ปี หายตัวปริศนาไปตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 65 โดยชาวเน็ตหลายคนก็มีการแชร์ข่าวช่วยกันตามหา ต่อมา น้องอุ้ย ลูกสาวคนโต อายุ 19 ปี เผยว่า ได้รับการติดต่อจากครอบครัวแล้วปลอดภัยดี แต่ยังไม่บอกรายละเอียดว่าอยู่ที่ไหน จนล่าสุด ทราบข่าวว่าทั้ง 4 คน ได้เดินทางออกนอกประเทศ ไปยังเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ตั้งแต่คืนที่หายตัวแล้ว โดยทิ้งรถเก๋งสีขาว 1 คันให้ลูกสาวคนโต
ความคืบหน้าล่าสุดของเรื่องดังกล่าว วันที่ 23 เม.ย.65 ที่ผ่านมา นายวิภูสิทธิ์ เสาร์เรือน เจ้าของโครงการหมู่บ้าน เผยว่า น.ส.นฤมล ไม่เคยมีการปรึกษาเรื่องจะขายบ้าน เพราะหลังทำสัญญาโอนขายบ้านในวันที่ 31 มี.ค. 64 เคยคุยกันผ่านทางโทรศัพท์ 3 ครั้งเท่านั้น ครั้งที่ 1 ขอทาสีบ้านสีชมพู ตนปฏิเสธบอกทำไม่ได้ เพราะโครงการเพิ่งจะขึ้น ครั้งที่ 2 ขอทำสระน้ำตนบอกว่าทำได้แต่ไม่แนะนำให้ทำ เพราะกลัวดินทรุด ครั้งที่ 3 ปลายปี 64 ขออนุญาตปลูกต้นปอเทืองตรงข้ามหน้าบ้านจากนั้นเจอกันครั้งสุดท้ายปลายปีเช่นเดียวกัน ตนไปเปลี่ยนหลอดไฟให้ที่บ้าน
ส่วนเรื่องซื้อบ้านเป็นที่น่าสงสัยเช่นกันว่า ทำไมมี Statement เดินบัญชียอดเงินหลักหมื่นถึงหลักแสน จึงไปพบว่านายนิรุตน์ ทำอาชีพฟาร์มหมู ส่วนน.ส.นฤมล เป็นนักบัญชี แต่สุดท้ายธนาคารไม่อนุมัติ น.สนฤมล จึงซื้อเงินสด โดยจองบ้านในวันที่ 3 มีนาคม 64 จ่ายค่าจองเป็นเงิน 5,000 บาท ระหว่างนี้ส่งเอกสารกู้กับธนาคารแต่ไม่ผ่าน ต่อมาจึงทำสัญญาเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 64 จ่ายเงินก้อนแรก 60,000 บาท ก่อนโอนบ้านในวันที่ 31 มีนาคม 64 และจ่ายเงินก้อนสุดท้าย 1,135,000 บาท เข้าอยู่ในวันที่ 20 พ.ค.64
ตนนั้นก็ไม่ได้เอ๊ะใจเรื่องของเงิน เพราะรู้ว่าคนที่ทำฟาร์มหมูต้องมีเงินทุน และก็ไม่รู้ว่า นายนินุตน์ ทำฟาร์มใหญ่แค่ไหน แต่แอบสงสัยว่าทำไมกล้าซื้อเงินสดในยุคแบบนี้ อีกทั้งเห็น น.ส.นฤมล อยู่แต่บ้านกับลูก ๆ เป็นคนสุภาพ จึงตกใจเหมือนกันที่หายไปเพราะหนีหนี้