ข่าววันนี้ (25 เม.ย.65) ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก จำเลยในคดีขับบิ๊กไบค์ชนหมอกระต่ายเสียชีวิตบนทางม้าลาย พร้อมทนาย ได้เดินทางมาศาลตามนัดเพื่อฟังศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ บัวดก อายุ 21 ปี ผู้บังคับหมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน จำเลยในความผิด ฐานขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาอื่นๆ รวม 9 ข้อหา กรณีขับบิ๊กไบค์ชน แพทย์หญิงวราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์ โรงพยาบาลราชวิถี ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ส.ต.ต.นรวิชญ์มีความผิดขี่รถจักรยานยนต์เร็วในเขตชุมชนด้วยคงามประมาท จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว จึงพิพากษาให้จำคุก 2 ปี 30 วัน ปรับ 8,000 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือโทษ จำคุก 1 ปี 15 วัน ปรับ 4000 บาท โดยไม่รอลงอาญา และให้เพิกถอนใบอนุญาตใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์
จากนั้น สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ได้ยื่นเรื่องขอประกันตัว ยังอยู่ระหว่างศาลพิจารณา และจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป
นายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความฝ่ายญาติของหมอกระต่าย เปิดเผยว่า พึงพอใจในคำตัดสินของศาล ซึ่งจะไปหารือกับญาติของหมอกระต่ายเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป
ส่วนคดีฟ้องแพ่งเรียกเงินค่าเสียหายจากสิบตำรวจตรีนรวิชญ์ , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กรุงเทพมหานคร เป็นเงินรวม 144 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างศาลพิจารณา โดยรอศาลนัดวันชี้สองสถาน
-ศาลสั่งจำคุก “ส.ต.ต.นรวิชญ์” ซิ่งบิ๊กไบค์ชน “หมอกระต่าย” เสียชีวิตแล้ว
-ส.ต.ต.นรวิชญ์ ไม่พร้อมจ่ายค่าเสียหาย72ล้าน ทนายพูดชัด จะยื่นฟ้อง สตช.ด้วย
-ผลตรวจพิสูจน์ความเร็ว บิ๊กไบค์ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ออกเเล้ว โดนข้อหาเพิ่มทันที
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ขี่บิ๊กไบค์ชนแพทย์หญิงวราลัคน์ ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย บริเวณหน้าโรงพยาบาลสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท แขวงและเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเขตชุมชุนด้วยความเร็ว 108 ถึง 128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนดที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนแพทย์หญิงวราลัคน์เสียชีวิต
ต่อมาวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พนักงานอัยการ โจทก์ได้นำตัวสิบตำรวจตรีนรวิชญ์ ยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา รวม 9 ข้อหาได้แก่
1. นำรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ
2. ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี
3. ใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัย 4. นำรถไม่สมบูรณ์มาขับและไม่ติดกระจกมองข้าง
5. ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย 6. ขับรถจักรยานยนต์เร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
7. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
8. ขับรถโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง
9. ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการยังขอให้ศาลมีคำสั่งริบรถจักรยานยนต์ที่ พนักงานสอบสวนยึดไว้เป็นของกลาง และมีคำขอให้ศาลเพิกถอน หรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้ต้องหาด้วย โดยการริบหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะให้พักใช้เป็นระยะเวลากี่ปี
โดยสิบตำรวจตรีนรวิชญ์แถลงให้การรับสารภาพ ไม่ต่อสู้คดี ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติ สืบเสาะ และพินิจ ประวัติการศึกษา สถานะทางครอบครัว และอื่นๆ ของสิบตำรวจตรีนรวิชญ์ แล้วรายงานให้ศาลทราบ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาพิพากษา
ล่าสุดมีรายงานว่า ให้ประกันส.ต.ต.นรวิชญ์ ภายหลังศาลอาญา มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกและปรับจำเลยแล้ว ต่อมา บิดาและผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก จำเลย ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ โดยใช้ตำแหน่งราชการเป็นหลักทรัพย์
โดยศาลอาญาพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์ตีราคาประกัน 200,000 บาท