หากใครยังจำได้ก่อนหน้านี้ "แซน วิศาพัช" ได้ออกมาเผยแชทที่ "หมอของขวัญ" ทักมาหาพร้อมบอกจะช่วยหาทนายให้ แต่ตนนั้นไม่ได้ตอบอะไรกลับไป และให้สัมภาษณ์ถามกลับว่า "หมอยังไม่อิ่มเหรอ" ทำเอาเป็นเด็นดราม่า ล่าสุด รายการเป็นเรื่องใหญ่ แขกรับแชิญคือ หมอของขวัญ ที่ออกมาเปิดใจเคลียร์ประเด็นประเด็นต่างๆ
ล่าสุดถูกเอาแชตออกมา ว่าคุณหมอเป็นนกสองหัว ตกลงอยู่ข้างไหนกันแน่ อยู่ข้างแตงโม หรืออยู่ข้างแซน?
หมอของขวัญ : หมออยู่ข้างความถูกต้อง ข้อแรกหมอต้องการทวงคืนความยุติธรรมให้กับคนตายที่พูดไม่ได้ สองในฐานะคนรู้จัก เห็นคนรู้จัก ซึ่งตอนนี้เขาให้สัมภาษณ์ว่าไม่รู้จักเรา
เขาบอกคุณหมอพอซะที ยังไม่อิ่มอีกเหรอ?
หมอของขวัญ : โอเค ไม่รู้จักได้ แต่อย่างนี้ค่ะ คนที่ถ่ายรูปเพื่อนแขนใหญ่ ติดผ้าอนามัยแล่บขนาดนั้นแล้วบอกว่าสวยดี ไม่รู้จักก็ได้ค่ะ หมอก็ไม่ได้อยากรู้จักค่ะ แต่ ณ วันนั้นเราหวังดี ว่ากุนซือหรือทนายที่บอกให้เขาสัมภาษณ์แบบนี้หรือเรื่องอะไรที่ดูบ้ง การที่เรารู้สึกว่าเฮ้ย ถ้าคุณมีที่ปรึกษาที่ดี ทนายที่เก่ง คุณจะหลุด คำว่าหลุดไม่ได้หมายถึงหลุดคดี หลุดจากการเป็นจำเลยของสังคมไปได้ มันไม่มีอะไรเลย หมอไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถฆ่าใครได้ หมายถึงเขาคนเดียวนะ ไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นฆาตกรฆ่าใครได้ ดังนั้นมันไม่แปลกไม่ใช่เหรอ ที่เราจะแนะนำทนายที่ดี แนะนำทางที่ดีให้คนที่เรารู้จัก แต่ถ้าความหวังดีของหมอทำให้เขาบอกว่าเขาไม่รู้จักหมอ และหมอหิวแสง คนแบบนี้หมอไม่รู้จักก็ได้ค่ะ
ตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็ไม่เชื่อว่าเป็นฆาตกรรม?
หมอของขวัญ : หมอออกมาพูดจนช้ำว่าคนบนเรือไปแล้ว หมอต้องยืนยันว่าถ้าฆาตกรรมต้องมีแรงจูงใจ หมอยังเชื่อโดยสุจริตใจว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่การกระทำหลังอุบัติเหตุ โดยเฉพาะคนเป็นเพื่อน 20 ปีเพื่อนกินอยู่ง่าย เพื่อนตายกลับบ้าน ถ้าอยู่ตรงนั้นแล้วหาน้องให้เจอ ให้มีหลักฐานครบ จะทำให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยและบานปลายอย่างนี้มั้ยคะ
คุณหมอรู้จักสนิทใครบนเรือมากที่สุด?
หมอของขวัญ : รู้จักแซนนานที่สุด เพราะแซนขายกระเป๋าแอร์เมส และหมอซื้อกระเป๋าแอร์เมส ในฐานะแม่ค้า-ลูกค้า
เคยไปทานข้าวกันมั้ย?
หมอของขวัญ : ไม่เคยเป็นเพื่อน และไม่เคยแฮงเอ้าท์ และไม่คิดว่าจะเป็นเพื่อนและแฮงเอ้าท์อีกต่อไป แชทที่หลุดก่อนหน้านั้นเขาปล่อยไม่หมดนี่ว่าคุยอะไรกัน เขาปล่อยกะเบี่ยงเบนประเด็นมาทัวร์ลงที่หมอ ถ้านิสัยแบบนี้ก็ไม่แปลกใจค่ะ
แชทนั้นหมอคุยกับเขาว่าจะปรึกษาเรื่องทนาย เป็นห่วงนะ โกรธฉันหรือเปล่าที่ไปพูดอีกอย่าง?
หมอของขวัญ : ใช่ หนึ่งคือถ้าหมอเลือกคอนเนกชั่นและเห็นแก่ตัว หมอต้องเลือกข้างคนบนเรือเพราะหมอต้องเจอคนอีกเยอะ แต่หมอต้องเลือกค้นหาความจริง และพูดแทนคนตายที่พูดไม่ได้
แต่คุณหมอเอาเงินไปให้เขานะ เราเป็นลูกค้า?
หมอของขวัญ : อันนี้ต้องถามเขา
ที่คุณหมอบอกว่าเจ๋งสุดบนเรือคือแซน คืออะไร?
หมอของขวัญ : แซนเป็นคนมีฐานะมากที่สุดในเรือค่ะ
รวยที่สุดในเรือ ซึ่งคนมองเป็นคนอื่น?
หมอของขวัญ : เอาเฉพาะสัตว์เลี้ยงเขา ก็น่าจะมีเป็น 10 ล้านได้
แซนบอกว่าคุณหมอหิวแสง หยุดซะที เขาอยากให้หยุดเพราะ?
หมอของขวัญ : ถ้าหมอหิวแสง หมอต้องหิวแสงส่องไปในมุมมืดที่คุณปิดบังค่ะ
เคยคุยโทรศัพท์กันมั้ย?
หมอของขวัญ : เอาเป็นว่าถ้าเขาบอกว่าไม่รู้จักหมอ ถ้าเขาเล่นเกมแบบนี้ หมอไม่รู้จักเขาก็ได้ค่ะ อย่างที่พูด หมอเป็นคนซื้อ เขาเป็นคนขาย ใครเสียผลประโยชน์ ก็ขอโทษที่หวังดี หมอก็ต้องเรียนรู้ที่จะจบคนค่ะ
หมอเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ แล้วคิดว่าเกิดอะไรขึ้นในมุมของเรา?
หมอของขวัญ : หมอไม่รู้เลย อย่างที่บอกว่าช้ำกว่าคนบนเรือก็หมอแล้วล่ะ เรามูฟออนเรื่องนี้ แล้วปล่อยให้เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ แต่ก็สืบเงียบๆ แล้วมาเรื่องเป็นปากเป็นท้องของเรามั้ย เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องโควิด ที่กระทบกับเราจริงๆ
รูปที่คุณแซนบอกว่าถ่ายด้านหลัง ในมุมมองคุณหมอ ใช่มั้ย รอยสัก กล้ามเนื้อ ใช่แตงโมมั้ย?
หมอของขวัญ : คิดว่าน่าจะใช่แตงโม แต่ไม่เข้าใจว่าถ่ายด้วยจุดประสงค์อะไร พี่เพชรว่าสวยมั้ย มีผ้าอนามัย แล้วแขนล่ำ สวยมั้ยล่ะ ในมุมมองของผู้ชาย
หมอเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ แล้วคิดว่าเกิดอะไรขึ้นในมุมของเรา?
หมอของขวัญ : หมอไม่รู้เลย อย่างที่บอกว่าช้ำกว่าคนบนเรือก็หมอแล้วล่ะ เรามูฟออนเรื่องนี้ แล้วปล่อยให้เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ แต่ก็สืบเงียบๆ แล้วมาเรื่องเป็นปากเป็นท้องของเรามั้ย เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องโควิด ที่กระทบกับเราจริงๆ
รูปที่คุณแซนบอกว่าถ่ายด้านหลัง ในมุมมองคุณหมอ ใช่มั้ย รอยสัก กล้ามเนื้อ ใช่แตงโมมั้ย?
หมอของขวัญ : คิดว่าน่าจะใช่แตงโม แต่ไม่เข้าใจว่าถ่ายด้วยจุดประสงค์อะไร พี่เพชรว่าสวยมั้ย มีผ้าอนามัย แล้วแขนล่ำ สวยมั้ยล่ะ ในมุมมองของผู้ชาย