จากกรณีหลุดคลิปเสียงระหว่างสีกากับพระภิกษุที่ถูกอ้างถึงว่า เป็นพระนักเทศน์หนุ่มที่มีชื่อเสียงในภาคใต้และโด่งในโซเชียล ทำให้หลายคนพุ่งเป้าไปที่ "หลวงพี่กาโตะ" ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่ใช่ตัวเองอย่างแน่นอน เป็นเพียงแค่คนเสียงคล้ายเท่านั้น ต่อมา
หญิงสาวชื่อตอง ที่ได้นำคลิปเสียงมาแฉนั้น ได้ให้สัมภาษณ์สื่อช่องหนึ่งถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วตนเองป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ตั้งแต่เดือนธ.ค. 2564 ซึ่งไปหาหมอ 2 ที่ และตอนนี้ปกติดีแล้ว และเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งคลิปเสียงและข้อความที่แชทกันนั้น ตนเองได้สร้างเรื่องขึ้นมา เพราะอาการป่วยและอารมณ์ที่ไม่ปกติของตัวเอง
"ต้องกราบขอโทษสังคม ขอโทษทุกคน และขอโทษพระพุทธศาสนาที่ทำให้เสื่อมเสีย แต่ปัจจุบันหายดีแล้ว กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ส่วนใบรับรองแพทย์ก็มี ซึ่งคนที่ป่วยเป็นโรคนี้จะคิดไปได้หมด หรือมีจินตนาการแล้วก็ลงมือทำ" เธอระบุเหตุผลพร้อมเอ่ยคำขอโทษ
สำหรับ หลวงพี่กาโตะ หรือ พระพงศกร ปภัสสโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช มีชื่อจริงว่า นายพงศกร จันทร์แก้ว ชื่อเล่น แรมโบ้ เกิดและโตที่ จ.นครศรีธรรมราช เริ่มเข้าอุปสมบทตั้งแต่ปี 2560 เนื่องจากสัญญากับแม่ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งไว้ และในช่วงเวลาเดียวกัน หลวงพี่กาโตะ ก็ได้โควตาเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย คณะนิเทศศาสตร์ ราชภัฏสุราษฎร์ธานี แต่ก็ตัดสินใจลาออก เพราะอยากดูแลแม่
เมื่ออายุ 13 ปี เคยมีคณะแสดงเป็นของตัวเอง คือ คณะแรมโบ้ ศ.สุวรรณศิลป์ รับงานแสดงหนังตะลุง ซึ่งเสน่ห์ของหนังตะลุง เป็นที่รู้กันดีว่าอยู่ที่คนพากย์ เพราะนอกจากจะต้องมีเสียงที่น่าสนใจแล้ว จะต้องมีความรู้รอบตัว ข่าวสารบ้านเมือง เพื่อนำไปพากย์ โดยใส่มุกตลกลงไป คนที่ดูนอกจากจะได้ความสนุกสนานแล้ว ยังได้ข้อมูลข่าวสาร และความรู้กลับไปด้วย ซึ่งทำให้ หลวงพี่กาโตะ นำความสามารถจากตรงนี้มาใช้ในการเทศน์ การสอนธรรมะ ให้คนฟังรู้สึกสนุก แต่ได้ข้อคิดไปด้วย
-คดีพลิก สาวเจ้าของคลิปแฉ "หลวงพี่กาโตะ" สารภาพกุเรื่องเพราะป่วย
-"หลวงพี่กาโตะ" เปิดใจแล้ว หลังคลิปเสียงว่อน โดนชี้เป้าสานสัมพันธ์สีกาในรถ
-"ทนายกฤษณะ" เปิดใจหลังฟังแถลง ตอนนี้มีประเด็นในใจแล้ว
เมื่อปี 2561 ครั้งยังอยู่ในฆราวาส พระกาโตะ ได้เดินตามฝันของตัวเอง ด้วยการเดินทางไปประกวดร้องเพลงในรายการไมค์ทองคำ 7 ทางช่อง Workpoint ซึ่งนับเป็นการปรากฏต่อสาธารณชนครั้งแรกของ หลวงพี่กาโตะ ซึ่งครั้งนี้เอง ที่เป็นที่มาในการเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
ต่อมาในปี 2562 หลวงพี่กาโตะ เริ่มเป็นที่รู้จักบนโลกโซเชียลจากการแชร์คลิปของ หลวงพี่กาโตะ ที่อัดคลิปลงแอปพลิเคชัน TikTok คู่น้องหมาและเครื่องดื่ม โดยสอดแทรกมุกตลกควบคู่ไปกับธรรมะ จนมีผู้คนเข้าไปกดติดตาม พร้อมเสียงวิจารณ์ ทั้งแง่บวกและแง่ลบจำนวนมาก
หลังจากนั้น หลวงพี่กาโตะ กลับมาร้อนแรงบนโลกโซเชียลอีกครั้ง ในปี 2564 จากกรณีดราม่า หลังจากไปบรรยายให้นักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งฟัง ซึ่งมีบางช่วงบางตอนที่กล่าวว่า "วัยรุ่นสมัยนี้ทำอาตมาแย่ เที่ยวไปชูสามนิ้วกัน พูดในนามพระเลยนะ วัยรุ่นบ้านเรานี่ดีหน่อยนึง โดยเฉพาะชาวใต้นี่ไม่เท่าไหร่ แต่ที่อื่นนี่น่าสงสารมากเที่ยวไปชูสามนิ้วกัน บางคนหุงข้าวยังไม่เป็นจะไปปฏิรูปประเทศแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรา หน้าที่เราคือเรื่องเรียน" งานนี้ภายในเวลาไม่กี่นาที ทำให้ชื่อของ หลวงพี่กาโตะ ก็ขึ้นเทรนทวิตเตอร์ทันที
ท้ังนี้ ปัจจุบัน หลวงพี่กาโตะ ยังคงสอนธรรมะ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งเฟซบุ๊ก , Youtube และ TikTok ใช้ในการสอนธรรมะรูปแบบใหม่ ที่เน้นความฮาแต่แฝงไปด้วยสาระต่าง ๆ เพื่อให้คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงพระพุทธศาสนาได้ง่ายขึ้น แม้จะไม่ต้องเข้าวัด พร้อมกับคำคมเด็ด ๆ