จากกรณีข่าวดังก่อนหน้านี้ เมื่อปี 62 อดีตผอ.โรงเรียน กลุ่มเพื่อนครูอีก 8 คนต้องมารับชดใช้หนี้แทนให้แม่ดาราหนุ่ม "แมงมุม กิติพัฒน์ รัตนเศรณี" ซึ่งขณะนั้น ดาราหนุ่มได้เผชิญหน้าอดีต ผอ.คู่กรณีแม่ ยอมรับ แม่กู้เงิน 1.4 ล้าน แต่ไม่จ่ายเงินจริง ทำให้เพื่อนครูผู้ค้ำประกันให้แม่เดือดร้อนและพร้อมชดใช้แทนให้ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 65 อดีตผอ.โรงเรียนได้ออกมาเปิดใจร่ำไห้บอกว่า กลุ่มผอ.และครูอีก 8 คนชีวิตสุดลำบาก ต้องมารับชะตากรรม บั้นปลายชีวิตต้องมานั่งใช้หนี้แทนแม่ดาราหนุ่ม เงินแต่ละเดือนถูกหักแทบไม่เหลืออะไรกิน คงต้องชดใช้หนี้ไปจนวันตาย ยิ่งไปกว่านั้นคือ เมียผอ.คนหนึ่งเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนอดีตผอ.อีกคนถูกทวงหนี้จนเส้นเลือดฝอยแตกต้องพิการอยู่เพียงลำพัง
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น.เช้าวันที่ 10 พ.ค.2565 ทาง ผอ.วินัย สังขวรรณะ วัย 65 ปีอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านผาปูน ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาทาง"แมงมุม"กิติพัฒน์ รัตนเศรณี ดารานักแสดงชื่อดัง ได้ติดต่อมาขอชดใช้หนี้แทนแม่ครูวิชชุดา พุทธชาติ อดีตครูโรงเรียนบ้านยางเปียง จำนวน 600,000 บาท ให้ตนแล้วแต่บัญชีของตนได้ถูกอายัดไป จึงได้โอนเงินเข้าบัญชีของภรรยาโอน ครั้งละ 99,880 บาท จำนวน 6 ครั้งและ 750 บาท 1 ครั้ง ครบจำนวน 6 แสนบาท
ทางฝั่งของดาราหนุ่ม แมงมุม กิติพัฒน์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางอินสตาแกรม โพสต์ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด พร้อมอธิบายถึงเหตุผลที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น โดยระบุว่า ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ชี้แจงเรื่องทั้งหมดในข่าวนะครับ
เรื่องราวเป็นคดีที่เกิดกับคุณแม่ของผม เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ผมพึ่งทราบเรื่องคดีนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้วจึงเป็นที่มา ที่ได้ไปเคลียร์กับคู่กรณีของคุณแม่ผมที่รายการโหนกระแส ก็จบความที่ว่า ผมในฐานะลูกจะชดใช้และผ่อนจ่ายให้ (ในตอนที่ตกลงนั้นพูดตรงๆเลยคือไม่มีเงินคับ ณ ช่วงเวลานั้น เพราะ เป็นช่วงที่ผมล้มพอดี หนี้จากธุรกิจเก่าเยอะประกอบกับค่าตัวนักแสดงตอนนั้นก็ไม่ได้เยอะคับจึงใช้เดือนชนเดือนถึง ติดลบมาโดยตลอด ผจก.ผมจะรู้ถึงความเป็นอยู่ผมในช่วงนั้นดี)
ต่อมาผมก็ตั้งหน้าตั้งตาสร้างตัวเพื่อที่จะให้ตัวเองมีกำลังพอที่จะพัฒนาฐานะทางการเงินของตัวเรา เพื่อที่จะใช้หนี้ให้ตัวเองและของครอบครัว ย้ำนะคับ ว่าหนี้ไม่ได้มีแค่ก้อนนี้คับ ผมในฐานะหัวหน้าครอบครัว ก็พยายามที่จะเลี้ยงดูคุณแม่มาตลอดไม่ว่าตอนมีหรือตอนไม่มี ซึ่งระยะเวลาที่ผมสร้างตัวก็ราวๆ2-3 ปี ซึ่งยอมรับเลยคับว่าสาหัสมากทั้งเรื่องภาวะเศรษฐกิจและช่วงโควิด ทำให้ธุรกิจทั้งหมดพัง ถ่ายละครก็ถ่ายไม่ได้ รู้สึกช่วงนั้นผมจะเป็นเทรนเนอร์ด้วยคับ ก็แน่นอนคับ ยิมปิด คุณพระ หาเงินจากที่ไหนล่ะเนี่ย
แต่ในที่สุดผมก็ผ่านมันมาได้ ผมพึ่งมาตั้งตัวได้ประมาณ เกือบ 1 ปี จึงได้เริ่ม จัดสรรเงินดังนี้ 1.เก็บเงินเพื่อรองรับความเสี่ยงต่างๆ 2.ลงทุน 3.ทำบุญ 4.ดูแลครอบครัว 5.ใช้ชีวิต 6.ใช้หนี้ ผมได้ตั้งใจใช้หนี้ต่างๆไม่ว่าจะเป็นของตัวเองและครอบครัวมาตลอด ซึ่งโชคร้ายตรงที่คุณยายผมก็ป่วยพอดี ยายผมเป็นโรคอัลไซเมอร์+โรคกระดูก +โรคพาร์กินสัน ใครที่มีผู้ป่วยอยู่ในบ้านจะรู้ได้เลยว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งทำให้ผมต้องจัดสรรค่าใช้จ่ายในทุกๆด้านให้ลงตัว ให้ทุกคนรอบตัวผมไม่รู้สึกว่าขาดหรือรู้สึกว่าผมไม่มีหรือดูแลไม่ได้
ผมเองไม่เคยหนีหายหรือติดต่อไม่ได้แต่อย่างใด ทาง ผจก.ได้ยืนยันแล้วว่าไม่มีการติดต่อมาเพื่อทวงถามหนี้ตลอด 3 ปีนี้หลังจากจบรายการโหนกระแส แต่ตัวผมเองไม่เคยนิ่งนอนใจในเรื่องหนี้ก้อนนี้ เพียงแต่ผมจัดลำดับการใช้หนี้ไว้แล้ว (ซึ่งข้อนี้ผมยอมรับผิดที่ผมจัดการได้ช้าไปคับ) เงินที่ผมได้มาในส่วนของการจัดสรรใช้หนี้ผมได้จัดสรรไว้เป็นลำดับจะไม่ได้หามาเพื่อใช้หนี้ให้หมดใน 1-2 เดือนเพราะยังมีภาระหน้าที่อื่นๆที่จะต้องรับผิดชอบด้วย
ตลอดเวลาที่ผมเติบโตมา ผมแยกกันอยู่กับคุณแม่ตั้งแต่ อนุบาล 2 โดยมียายกับตาและน้า เลี้ยงมา แต่เมื่อผมโตขึ้นและได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนของคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินหรือเรื่องอะไร ผมรับจบให้หมดเพราะผมคือลูก ดังนั้นวันนี้ผมได้แสดงความรับผิดชอบในฐานะลูก โดยการชำระหนี้ทั้งหมดให้กับคุณแม่ เป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท และได้แนบหลักฐานไว้แล้วคับ
สุดท้ายนี้ต้องขอโทษครอบครัว ขอโทษแฟน ขอโทษที่ปล่อยให้เรื่องราวบานปายไม่ได้ชำระหนี้จนทำให้เกิดความเสื่อมเสียในวันนี้ แต่ยังยืนยันในวันนี้คับว่าผมทำเต็มที่และรีบสุดในชีวิตแล้วคับ ขอโทษทุกท่านที่เกี่ยวข้องด้วยนะคับ"
ขอบคุณที่มา : เชียงใหม่นิวส์ Chiang Mai News ข่าวเชียงใหม่