จากที่ก่อนหน้านี้ สุกัญญา มิเกล นักร้องร็อกเกอร์คนดัง ได้โพสต์ข้อความประกาศตัดขาดกับลูกสาว โดยระบุว่า บันทึกสุดท้าย..ส่งถึง น.ส.ลูก วันนี้..เป็นวันที่ฉันค้นพบความจริงที่ว่า "ความเป็นแม่นั้นมันสิ้นสุดได้" มันก่อตัวขั้นเมื่อมีอีกหัวใจในท้อง และต่างฟังเสียงหัวใจของกันและกัน ใช้เลือดฉันเป็นเลือดเธอ สเปิร์มตัวเดียวไม่สามารถสร้างมนุษย์ได้" ซึ่งทำให้แฟนคลับต่างเป็นห่วงอย่างมาก
ล่าสุด สุกัญญา มิเกล ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวว่า มันเกี่ยวพันกันกับปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัว อีกทั้งยังมีการยื่นฟ้องตัดสิทธิปกครองร่วมพ่อของลูก พร้อมขอร้องศาลตัดสิทธิความเป็นแม่ลูกกับลูกสาว ในรายการ คุยแซ่บ SHOW ซึ่งเทปนี้มี หนิง ปณิตา และบูม สุภาพร เป็นพิธีกร ดำเนินรายการ
ร็อกเกอร์คนดัง ได้เริ่มต้นเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เริ่มต้นเลย หย่าเแยกกันดูแล หย่าตั้งแต่ปี 58 ศาลสั่งให้แยกกันดูแล แต่ทางกฎหมายมีสิทธิ์ปกครองร่วมกันอยู่ ดังนั้นเวลที่เราจะทำอะไรเกี่ยวกับลูกชายต้องขออนุญาตเค้า หรือให้เค้ารับทราบ ทางฝั่งเค้าเวลาทำอะไรเกี่ยวกับลูกสาวก็ต้องให้เรารับทราบรับรู้ขออนุญาตเช่นกัน แต่ที่ผ่านมาตลอดคือมันไม่มีการจอยกันเลย มีแต่ต่างคนต่างอยู่ พอล่าสุดเราต้องการจะทำพาสปอตให้ธาเนีย ขอลายเซ็นจากบิดา แต่ไม่มีการยินยอมแบบดีๆ
"เค้าให้เหตุผลว่ากลัวลูกจะไปติดโควิดสายพันธ์ต่างประเทศ แล้วในประเทศไม่มีหรอ มันเป็นแค่ข้ออ้าง เราไม่รู้หรอกว่าเหตุผลอะไร ระยะเวลาของการที่ยื้อ 9 เดือน มันคงเป็นเหตุผลส่วนตัว" สุกัญญา มิเกล อธิบายถึงเหตุผลของฝั่งอดีตสามี
สุกัญญา มิเกล ระบุว่า เธอจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เนื่องจากว่าได้ตรวจ DNA ตอนก่อนแต่งงานเพื่อจะหาความเป็นพี่น้อง ปรากฏว่าผลมันบอกออกมาว่าเราเจอญาติของเธอ อีกทั้งยังเจอพ่อ เธอจึงคุยกับพ่อมาประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งตอนนี้คุณตาได้คุยกับหลานแล้ว ก็ถามว่าอยากมาเยี่ยมพวกมั้ย
-แผลมันฟ้อง "หมอพรทิพย์" เชื่อเเตงโมไม่ได้ตกท้ายเรือ
-"หนุ่ม กรรชัย" โพสต์แรงสื่อถึงใคร "จงอย่าก้มหัวให้คนชั่ว" คนแห่โยงคดีแตงโม
-หลวงพี่รับไม่ได้ เณรออกบิณฑบาต เจอใส่ถุงยางอนามัย วอนญาติโยมอย่าเหมารวม
"ซึ่งครอบครัวที่แยกกันอยู่แล้วมีลูกด้วย สิ่งสำคัญถ้าเราจะดำเนินอะไรเกี่ยวกับอนาคตของเด็ก ๆ เราควรที่จะคุยกันได้ ควรที่จะปรึกษากันได้ ต่อให้ไม่ชอบกันเกลียดกันแค่ไหนก็แล้วแต่ เราควรลดทิฐิลงเพื่อผลประโยชน์ของลูกเป็นหลัก เรารู้สึกแย่มากและไม่โอเคกับการที่เราจะเดินชีวิตกับลูกต่อไปในอนาคต มันมีความรู้สึกเหมือนโดนรั้ง โดนเบรก มันสูญเสียเวลา สูญเสียโอกาสไป" สุกัญญา มิเกล ลงรายละเอียด
ส่วนเรื่องโพสต์เฟซบุ๊กข้างต้นนั้น เธอระบุว่า ที่โพสต์ขึ้นเฟซบุ๊กหลายเดือนก่อน เธอได้คุยกับลูกสาวครั้งสุดท้าย ที่เธอไปตามหาแล้วเจอว่าเค้าอยู่ไหน กระทั่งได้คุยกับลูก เค้าบอกมาว่าเค้าต้องการเดินชีวิตของเค้า เค้าใช้คำพูดว่าเค้าเป็นนางสาวแล้ว เธอก็มองว่ามันมีเหตุผล เค้าไม่ต้องการให้เราไปวุ่นวาย เพราะเค้าถูกชุดข้อมูลจากใครไม่ทราบ แต่เค้าบอกว่ามันคือการคุกคาม
"การที่แม่ไปตามหาลูกว่าอยู่ตรงไหนมันเป็นการคุกคาม เรามองว่าเราไม่อยากเป็นบุคคลที่ไปคุกคามลูก มุมเราคือเรารักลูก เราอยากรู้ว่าลูกเราเป็นยังไง อีกมุมนึงมันเป็นการไปคุกคามเค้า เราเลยบอกว่าโอเคงั้นลาออก จะได้ไม่มีการคุกคามในสายตาใครอีกต่อไป" สุกัญญา มิเกล เล่าเพิ่มเติม
"สุกัญญา มิเกล" ยังบอกอีกว่า ยังเป็นห่วง และก็รัก แต่ว่าต้องใช้เหตุผลในเรื่องของเคารพความเป็นมนุษย์ของเค้าและของเราด้วย ซึ่งในมุมคนอื่นไม่รู้จะมองยังไง แต่มุมของเธอคือ สายเลือดมันคงตัดไม่ได้ เพราะ DNA ของเธอก็อยู่ในตัวลูกสาว แต่ชีวิตเค้าเป็นคนเลือก ถามว่าเสียใจมั้ย มันก็แน่นอน เคยร้องมาก่อนแล้ว มันเป็นความรู้สึกจุกอยู่ข้างใน กลั่นออกมายากมาก
"พี่มีนิสัยอย่างนึงที่คนอาจมองว่าไม่น่ารัก คือเวลาโกรธหันหลังกับอะไรพี่จะยื้อสุดๆ เลย แต่ถ้าพี่บอกว่าโอเคหยุดหันหลังแล้วพี่หันหลังเลย พี่ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย พี่ให้ชีวิตเค้า ตลอดระยะเวลาที่หย่า 7 ปี เค้าไม่ได้ให้โอกาสพี่ในการที่จะได้ดูแลเขา ทั้งๆ ที่พี่พยายามหาโอกาสแล้ว พี่ว่าพี่ก็เดินมาสุดทางแล้วในฐานะที่เป็นแม่คนนึง ก่อนหน้านั้น 18 ปี พี่ก็ไปสุดทางในฐานะภรรยา เมื่อเขาไม่ต้องการพี่ก็ไม่อยากเป็นคนไร้ค่า เขาเลือก เราต้องเคารพในสิ่งที่เขาเลือก ถ้าเรารักลูก นี่คือความรักในแบบพี่ พี่ไม่มีดราม่า เอาเหตุและผลอย่างเดียวเลย"
ส่วนในทางกฎหมายนั้นเธอระบุว่า รอบนี้ศาลท่านก็น่ารัก มาขอเราในห้องบอกว่าผมขอได้มั้ยว่าให้สิทธิ์การปกครองยังเป็นร่วมเหมือนเดิม แต่ว่าผมจะออกคำสั่งให้เค้าเซ็นยินยอมต่อเอกสารทุก ๆ อย่าง ผลประโยชน์ของเด็กสูงกว่าสิ่งใด ต่างคนต่างก็คุยกันไม่ได้อยู่แล้ว ยังไงก็ขอให้มีกฎหมายรองรับผลประโยชน์ของเด็กนั่นคือสิ่งที่ท่านขอ ตอนนี้ก็เลยมีคำสั่งออกมาว่าการปกครองรวมที่เราขอตัดยังคงกลับมาร่วม แต่สิ่งที่ได้มาคือเค้าต้องยินยอมต่อสิ่งที่เราร้องขอในกรณีที่เกี่ยวกับลูกทุกอย่าง
อย่างไรก็ตาม สุกัญญา มิเกล ยังได้ตอบประเด็นที่ว่า สาเหตุที่ไม่เซ็นเพราะเค้ากลัวเอาลูกไปขาย ซึ่ง เธอไม่รู้จะพูดยังไง เพราะได้ยินกับหูเลย ทุกครั้งที่ขึ้นศาลมีการดิสเครดิตเรา ในคำพูดที่เค้าว่าอาจจะพาลูกไปขายได้ยินกับหู เราขำ ถ้าเราขายไม่ต้องรอถึงอายุ 13 มั้ย เราเลี้ยงลูกมา งานก็น้อยลงเพราะเราแก่แล้ว แต่เราเลี้ยงลูกให้ได้สมกับที่เด็กจะได้รับมาเสมอ ไม่เคยเอาลูกไปไว้กับใครคนอื่น ไม่เคยปล่อยให้ลูกอดอยาก บอกว่าเราเอาลูกไปขายมันเป็นความตลกในมุมมองเรา แต่ในมุมมองคนอื่นเราไม่ทราบ
ข้อมูลจาก คุยแซ่บShow