กรณี หมอปลา ตีแผ่พฤติกรรมของ หลวงปู่แสง มีการจับหน้าอกผู้หญิงที่เข้าพบ แต่ปรากฏว่าคนจำนวนไม่น้อยมองว่าท่านทำไปเพราะไม่รู้ตัว เนื่องด้วยอาการป่วย อีกทั้งยังวิจารณ์ถึงท่าทีของ หมอปลา ภรรยา และนักข่าวบางคนที่มีกิริยาท่าทาง หรือใช้คำพูดคำจา ไม่เหมาะสมต่อหลวงปู่แสง ซึ่งต่อมา กองบรรณาธิการข่าวเวิร์คพอยท์ สั่งพักงานนักข่าว 7 วัน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบกำหนดบทลงโทษเพิ่มเติม
ก่อนที่ทางเวิร์คพอยท์ ได้ลงโทษสูงสุดด้วยการไล่นักข่าวออก ซึ่งไม่นานจากนั้น น.ส.วาสนา อดีตนักข่าวเวิร์คพอยท์ ได้นำพานดอกไม้ธูปเทียน มาขอขมาต่อรูปหลวงปู่แสง ที่วัดใน จ.อำนาจเจริญ โดยทางลูกศิษย์ได้จัดเตรียมไว้ให้ที่หน้าประตูทางเข้า จากนั้นก็กล่าวคำขอขมา แล้วก้มลงกราบกับพื้น และยอมรับว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น กรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างหลักฐาน และกริยาที่ดูไม่เหมาะสมนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้านพระครูกมลวัฒนาทร (มนู ประชานันท์) เจ้าคณะตำบลโพนเมืองน้อย (ธ) มีเขตดูแล 9 ตำบล เจ้าอาวาสวัดป่าทองสมรรัตนาราม ต.รัตนวารี อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า จากการที่โยมนักข่าวผู้หญิงนำพานขอขมาไปขอขมาหลวงปู่แสง แต่พานเทียนขอขมานั้นไม่ถูกต้อง มันเป็นพานเทียนที่ไปขอขมาในงานศพหรือผีตาย
โดยเขาเรียกว่า พานเทียนแพอวมงคล ดูง่ายๆ จะมีเทียนวางไว้บนธูป ซึ่งเอาไว้ในการนำไปขอขมาศพที่ตายแล้ว ส่วนที่ถูกคือจัดวางธูปไว้บนเทียน สิ่งที่ใช้ในงานมงคลทั่วไปทุกงาน จึงอยากให้นักข่าวหญิงคนนี้ให้กลับมาขอขมาหลวงปู่แสงใหม่ อะไรๆ จะได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในหน้าที่การงานและการนำเสนอข่าวรับใช้ประชาชน
พระครูกมลวัฒนาทร มองว่า กรณีนี้นักข่าวหญิงที่มาขอขมา อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องพานแพมงคล และพานแพ อวมงคล ซึ่งคนขายก็ไม่รู้หรืออาจจะฟังสับสน ซึ่งไม่ได้จะไปโทษใคร มองว่าในช่วงเราซวย ถึงคราวดวงตก ทำอะไรมันก็ผิดไปหมด
แต่ถ้าโยมกลับมาแก้ไขเสียใหม่สิ่งต่างๆ ก็จะดีขึ้น พร้อมอยากกำชับไปยังพุทธศาสนิกชนประชาชนต่างๆ ในการใช้สิ่งมงคลกราบไหว้บูชา หรือการขอขมาต่างๆ ให้ดูให้รอบคอบอันไหนผิดอันไหนถูกต้องสอบถามผู้รู้ จะไม่ได้ปฏิบัติถูกๆ ผิดๆ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ในโลกออนไลน์บางส่วน ก็มีผู้สังเกตเห็นว่า นักข่าวหญิง วางแพเทียนขอขมาที่ผิดจริง โดยแบบดังกล่าวนั้นคือแบบ อวมงคล นอกจากนี้ยังมองว่าไม่ควรใช้ดอกไม้สีแดง แต่ควรจะเป็นดอกไม้สีขาวอีกด้วย