ดูเหมือนจะยาวสำหรับประเด็น "ส้ม" สาวป่วยอ่อนแรงติดเตียง และ "พิมรี่พาย" ล่าสุด 15 พ.ค. 65 เฟซบุ๊กเพจ ขนส่งสินค้า ขนของ ย้ายบ้าน ย้ายสำนักงาน ทำความสะอาด by กล้ากิจจ์ กรุ๊ป บริษัททำความสะอาดที่พิมรี่พายว่าจ้าง ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว
"แน่นอนว่าถ้าเป็นเสื้อผ้าของใช้ที่อยู่ในสภาพพอใช้งานได้ ทางทีมงานเราไม่มีความจำเป็นต้องนำออกไปทิ้งแต่อย่างใด จะทำการเก็บส่วนหนึ่งเข้าตู้ และส่วนหนึ่งเก็บพับใส่ถุงไว้ให้ ซึ่งสิ่งที่ทีมงานคัดแยก และจะนำออกไปทิ้งส่วนใหญ่จะเป็นขยะเปียกของบูดเน่า หรือ ถ้ามีส่วนของเสื้อผ้าจะจะเป็นชุดที่อยู่ในสภาพไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ซึ่งเป็นส่วนน้อยมาก"
ทางบริษัทดังกล่าว ระบุอีกว่า หากคุณส้มไม่หยุดกล่าวอ้าง และออกมายอมรับ ชี้แจง กรณีพาดพิงถึงทีมงานทำความสะอาดว่าเป็นคนนำของใช้ไปจนเป็นเหตุให้ต้องเรียกร้องค่าความเสียหายไปทางพิมรี่พาย ทางบริษัทจะรวบรวมหลักฐานและดำเนินคดีในส่วนการหมิ่นประมาทและพาดพิงทำให้บริษัทเสียชื่อในกระบวนการต่อไป
ต่อมา สรปุก Pook Sukonta Berthebaud ออกมาเผยว่า ตนเคยคุยกับพิมรี่พายช่วงแรก ๆ ที่เข้าไปดูเคสนี้ ซึ่งตอนนั้นเธอยังช่วยงานพิมรี่พายอยู่ พิมรี่พายบอกว่าสงสารคุณส้ม เพราะเห็นแล้วเข้าใจเลยว่า ชีวิตคนมันพลิกกันได้ง่าย ๆ แต่สิ่งที่คุณส้มทำ กลับบอกว่าทีมงานขโมยของ บริษัทกำจัดขยะขโมยของ หากว่าพิมรี่พายไม่โอนเงินค่าของกว่า 30,000 บาท ทั้งที่ไม่มีใครเอาของของคุณส้มไป ลำโพงที่มาคิดเงินก็อยู่ในห้องเก็บของ ฝั่งหนึ่งก็นอนติดเตียงไปวัน ๆ ไม่คิดจะทำให้ตัวเองเดินได้ จนนักกายภาพบำบัดที่มาทำให้ถึงบ้านขอลา เพราะผู้ป่วยเสพติดการบริจาค อีกฝั่งเต็มที่และมีหลักฐานทุกอย่าง แล้วแบบนี้สังคมจะเชื่อใคร
ต่อมาชาวเน็ตก็จับสังเกตบิลที่ คุณส้ม เรียกเก็บเงินกับ พิมรี่พาย โดยมีรายการระบุว่าอะไรหายไปบ้าง คิดเป็นเงินเท่าไหร่ ซึ่งในนั้นก็มีลำโพงอยู่ คิดเป็นเงิน 1,400 บาท แต่ลำโพงนั้นอยู่ที่ห้องเก็บของที่ทาง พิมรี่พาย เช่าไว้ให้ต่างหาก