บ.ทำความสะอาด โต้เดือด "ส้ม" ดราม่าขนของออกจากห้อง ลั่น ไม่หยุดพาดพิงจะฟ้อง

 เรียกได้ว่ากลายเป็นดราม่าขึ้นมาทันที่เมื่อ "ส้ม" สาวพิการติดเตียงฟ้องเพจดัง พิมรี่พาย เข้ามาช่วยเหลือแต่ขนของออกไปหมดห้อง พร้อมเรียกร้องค่าชดเชย และยังบอกอีกว่าตั้งแต่พิมรี่พายมาช่วยเหลือเงินบริจาคของตนก็ลดลง จนพิมรี่พายได้งัดหลักฐานออกมาโต้กลับจนกระแสสังคมตีกลับหาตัว ส้ม อย่างหนัก

นอกจากพิมรี่พายที่ออกมาชี้แจงไปแล้วนั้น ล่าสุดบริษัทรับจ้างขนของ ทำความสะอาด ขนย้ายบ้าน ที่พิมรี่พายจ้างให้ไปช่วยเก็บของออกจากบ้านส้มได้โพสต์ชี้แจงหน้าเพจเช่นเดียวกัน  

โดยเพจ ขนส่งสินค้า ขนของ ย้ายบ้าน ย้ายสำนักงาน ทำความสะอาด by กล้ากิจจ์ กรุ๊ป โพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริง ระบุดังนี้

 
-ชาวเน็ตจับโป๊ะ "ส้ม" หลังเห็นบิลเรียกเก็บเงิน "พิมรี่พาย"
-"พิมรี่พาย" ชี้แจงแล้ว ปม "ส้ม" สาวป่วยติดเตียง ที่เคยให้ความช่วยเหลือ
-สาวป่วยติดเตียง ร้องเพจดัง เจอทีมงาน "พิมรี่พาย" เข้ามาขนของที่เคยให้จนหมด

ในเคสนี้ของคุณส้ม มีการกล่าวพาดพิง ถึงบริษัทและทีมงานที่รับทำความสะอาด ซึ่งเคสนี้ทาง บริษัท กล้ากิจจ์เอ็กซ์พลัสทรานสปอร์ต จำกัด ในเครือ กล้ากิจจ์ กรุ๊ป #KEPT ว่าเป็นผู้ทำให้เกิดความเสียหาย และ มีการนำของไปจะด้วยหมายความถึงการเอาไปทิ้งหรือจะเป็นการนำกลับมาใช้เองก็ดี จึงขออนุญาตชี้แจงผ่านช่องทางนี้ ถึงกรณีปัญหาเคสการทำงานดังกล่าวที่เกิดขึ้น

ในนามผู้บริหารบริษัทและทีมงาน ปกติไม่เคยคิดบูลลี่ ลูกค้า คนป่วย คนพิการ แต่เคสนี้ขอยืมคำพูดพิมรี่มาหน่อยว่า "ของคุณส้มถึงเอาไปก็ใช้อะไรไม่ได้ครับ " 

ซึ่งในการทำงานวันนั้นทีมงานเราได้รับมอบหมายให้คัดสรรแยกของใช้ที่ยังอยู่ในสภาพใช้งานได้กับพวกซากของใช้ซากอาหารที่เน่าเสียให้แยกเคลียร์นำไปทิ้ง ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็นเสื้อผ้าของใช้ที่อยู่ในสภาพพอใช้งานได้ทางทีมงานเราไม่มีความจำเป็นต้องนำออกไปทิ้งแต่อย่างใด จะทำการเก็บส่วนหนึ่งเข้าตู้และส่วนหนึ่งเก็บพับใส่ถุงไว้ให้

ซึ่งสิ่งที่ทีมงานทำการคัดแยก และ จะนำออกไปทิ้งส่วนใหญ่จะเป็นขยะเปียกของบูดเน่า หรือ ถ้ามีส่วนของเสื้อผ้าก็จะเป็นชุดที่อยู่ในสภาพไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ซึ่งเป็นส่วนน้อยมาก

แต่กระนั้นทุกขั้นตอนก็จะมีคุณแม่คุณส้มเป็นผู้ประกบคอยรื้อออกมาอีกครั้ง จนไม่สามารถเอาอะไรลงไปทิ้งได้เลยเนื่องจาก ของทุกชิ้นรวมถึงขยะ ที่เราจะขนไปทิ้ง จะถูกคุณแม่คุณส้มตามเบรกและให้ยกกลับมาไว้ที่เดิมทำให้การทำงานในวันนั้นเป็นไปด้วยความล่าช้าและยากลำบาก

ทางเราและทีมงานจึงประสานถึงคุณพริมรี่พาย ซึ่งสามารถตัดสินใจได้อย่างชัดเจนว่าให้ตามใจคุณแม่คุณส้มโดยจะเปิดห้องข้างๆให้นำของไปเก็บไว้แทนและจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้เองตามที่คุณพริมรี่พาย ชี้แจงในคลิป

ซึ่งหากทางคุณส้มยังไม่หยุดการกล่าวอ้างและออกมายอมรับชี้แจง ถึงกรณีพาดพิงว่าทีมงานที่ทำความสะอาดวันนั้นเป็นผู้นำของใช้ไป จนเป็นเหตุให้ต้องเรียกร้องค่าความเสียหายกับทางคุณ พริมรี่พาย ทางเราจะรวบรวมหลักฐานที่มีและทำการดำเนินคดี ในส่วนที่เป็นการหมิ่นประมาทพาดพิงทำให้บริษัทเราเสียชื่อเสียง ในกระบวนการต่อไป