จากกรณีที่ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดใจล่าสุด กรณีที่ขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายความแม่แตงโม ยืนยันชัดเจนว่า จนถึงขณะนี้ตนเองยังเป็นทนายความให้กับคดีนี้อยู่จนกว่าคดีจะถูกส่งฟ้องในชั้นศาล ซึ่งการขอถอนตัวออกจากคดีไม่ได้โกรธกันกับแม่ และจากกันด้วยดี แต่อยากขอฝากถึงแม่ของแตงโมขอให้ระมัดระวังคนที่จะเข้ามาพบเพื่อจะช่วยเหลือทางคดี เพราะไม่แน่ใจว่ากลุ่มคนที่จะเข้ามาช่วยเหลือนั้นจะให้ความช่วยเหลือไปจนจบคดีหรือไม่
ส่วนตัวเชื่อว่าคดีนี้ยังคงต้องใช้เวลาอีกนาน แต่หากแม่แตงโมจะขอให้กลับมาช่วยเหลือทางด้านคดีนั้นก็ยินดี แต่ขอดูเป็นประเด็นไป และจะขอให้แม่ไปสาบานในโบสถ์คริสต์ก่อนว่าหากให้กลับมาเป็นทนายให้ เเม่จะต้องพูดความจริง
ที่สำคัญ ทนายเดชา พูดชัดเจนว่า มือถือของแตงโมไปอยู่ที่บังแจ๊คนั้นถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เนื่องจากในโทรศัพท์ของแตงโมมีภาพลับที่เกี่ยวข้องกับนักธุรกิจ นักการเมือง และอีกหลายคนกว่า 30 ภาพ ที่เชื่อได้ว่าบังแจ๊คอาจจะนำไปหาผลประโยชน์แบล็คเมล์คนอื่นได้ แต่ยืนยันว่าการที่แม่แตงโม นำโทรศัพท์ไปให้บังแจ๊คนั้นไม่มีการหารือก่อน และไม่ทราบว่าเอาไปให้ใครจนกระทั่งแม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าโทรศัพท์อยู่กับทนาย จนสุดท้ายมายอมรับว่านำไปให้บังแจ็ค
หลังจากขอถอนตัวออกจากการทำคดีแล้วก็รู้สึกโล่งใจ เพราะที่ผ่านมาเริ่มมีความเห็นไม่ตรงกันในหลายเรื่อง แต่ยอมรับว่าได้รับค่าตอบแทนจากแม่แตงโมแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็จะยังคงทำหน้าที่ไปจนกว่าคดีความไปถึงชั้นศาล ส่วนกลุ่มบุคคลที่แม่แตงโมเชื่อถือ ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของแม่ แต่อยากให้แม่นึกถึงก่อนหน้านี้ที่มีนักการเมืองคนหนึ่งอยากจะสร้างศาลของแตงโมไว้เป็นที่กราบไหว้ที่ท่าน้ำพิบูลย์สงคราม อยากให้แม่ระวังเอาไว้เพราะหากกระแสของแตงโมเงียบหายไป ก็จะถูกทิ้งเอาไว้ไม่มีคนดูแล เหมือนที่แม่เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้