จากรณีที่มีประเด็นดราม่าขึ้นมา เนื่องจากหญิงสาวชาวสิงคโปร์ผู้ใช้ TikTok @nahtyourbby ได้โพสต์แชร์คลิปวิดีโอ เผยว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แม่ของเธอไปช้อปปิ้งที่ร้านแบรนด์เนมหรูชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศส ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี แต่กลับถูกทาง พนักงานขาย ปฏิบัติไม่ดีใส่ ทั้งเมินใส่และไม่ยอมให้ดูของ เหตุเพราะการแต่งตัวของแม่ดูไม่มีเงินซื้อ
โดยหญิงสาวเผยว่า ทางร้านปล่อยให้แม่ของเธอยืนอยู่โดยไม่สนใจ กระทั่งผ่านไปประมาณ 10 นาที พนักงานก็ไปดูแลลูกค้ารายอื่นแทน จนแม่ของเธอกลับมาเล่าเรื่องราวให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็คิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้พวกเขาได้รับรู้เป็นบทเรียน แม้ว่าแม่ของเธอจะไม่ต้องการวิธีนี้ก็ตาม
"ฉันรู้ว่าชีวิต พนักงานขาย ยากลำบาก คุณดูถูกฉันได้ แต่อย่ามาดูถูกแม่ของฉัน" เธอระบุ
แค่ข้ามคืนหลังจากนั้น เธอได้พาแม่กลับไปที่ร้านแบรนด์เนมดังกล่าว และขอให้พนักงานขายอีกคนมาช่วยดูแล เพื่อที่จะให้ยอดขายแก่เขาแทนคนแรก ซึ่งคนนี้ปฏิบัติกับเธอและแม่ดี นำกาแฟและน้ำดื่มมาให้ หลังจากนั้นเธอก็ตกลงซื้อสินค้าและกระเป๋าหลายใบ
นอกจากนี้หญิงสาวเผยว่า ในขณะที่กำลังชำระเงิน พนักงานขายคนแรกที่เป็นผู้หญิงก็อยู่ตรงนั้นด้วย เธอหันไปหาเพื่อนร่วมงานแล้วแสดงความยินดีกับเขาด้วยท่าทีประชดประชัน โดยหญิงสาวกล่าวย้ำในตอนท้ายคลิปว่า "ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้แม่ของฉันมีความสุข"
-หนึ่งเดียวในประเทศ "ศาลพระภูมิสูงลิ่ว" พร้อมเผยวิธีเปลี่ยนเครื่องเซ่น
-1 มิถุนายน จ่อแพงทั้งแผ่นดิน เช็คสินค้าบริโภค - อุปโภค ที่ปรับราคามีอะไรบ้าง
-ลูกค้ารับไม่ได้ เข้าร้านอาหารญี่ปุ่น เจอแจ็คพอต 2 ต่อ เห็นแล้วแทบอ้วก
ภายหลังจากคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปก็ได้รับความสนใจกว้างขวาง มีผู้เข้าไปชมมากกว่า 8.2 ล้านวิว และกดถูกใจกว่า 1.4 ล้านครั้ง ซึ่งหญิงสาว ได้ระบุเพิ่มเติมว่า "แม่ของฉันและฉันตั้งใจจะซื้อแบรนด์เนมนี้อยู่แล้ว พนักงานขายทุกคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราจึงเลือกพนักงานที่อยากทำงานด้วย"
ทว่าในโลกออนไลน์นั้น ผู้ชมจำนวนไม่น้อยเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์แสดงความไม่เห็นด้วย "ทำไมคุณต้องจ่ายเงินจำนวนมากให้กับแบรนด์ที่ไม่เคารพคุณ", "จำเป็นต้องเสียเวลาพิสูจน์ว่าพวกคุณรวยกับพนักงานขายด้วยเหรอ ?", "ฉันจะไม่ให้เงิน แบรนด์ดัง สักแดง จนกว่าพวกเขาจะแสดงให้ฉันเห็นว่า พนักงานขาย คนนั้นถูกไล่ออก" และ "ปัญหาของคนรวย ตลกมาก"
อย่างไรก็ตาม ขณะที่บางส่วนก็สงสัยว่าเธอทำงานอะไร หญิงสาว เผยว่า เธออาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ มีรายได้ 150,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือประมาณ 5 ล้านบาท พร้อมทั้งอธิบายว่า เธอไม่เคยพยายามแก้แค้น พิสูจน์จุดยืน หรือให้ใครไล่ออก เธอแค่ต้องการประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดี และพนักงานที่สุภาพ ก็เท่านั้นเอง
ข้อมูลจาก เอเชียวัน, newsbeezer