จากกรณีที่เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบพบว่า ได้มีพี่น้องประชาชนแชร์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะเตือนภัย โดยระบุว่า ในปัจจุบันได้มีคนร้ายใช้ คิวอาร์โคด (QR Code) ในการหลอกลวง เมื่อเหยื่อสแกน QR Code ก็จะถูกดูดเงินหมดบัญชี
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนว่า การสแกน QRCode เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้เงินในบัญชีของท่านถูกโอนไปให้กับคนร้ายได้ แต่อาจเกิดขึ้นได้หากมีองค์ประกอบอื่นร่วมด้วยเช่นกรณีดังต่อไปนี้
-ประกาศ "หยุดผลิตซอสพริกศรีราชา" กลายเป็นปัญหาของรักซอสพริกเอเชียขึ้นมา
-เผย 10 อันดับ "เมืองค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก" เอเชียยกขบวนติดโผหลายเมือง
-ราชกิจจาฯ ประกาศปรับอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 16 สาชาอาชีพ
1. QR Code ดังกล่าว นำไปสู่หน้าเว็บไซต์ปลอมของทางธนาคาร เพื่อหลอกเอาข้อมูลชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านในการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง (Internet Banking) ทำให้คนร้ายสามารถทำธุรกรรมทุกอย่างโดยเฉพาะการถอนเงิน โอนเงินจากบัญชีเหยื่อได้
2. QR Code ดังกล่าว เป็น QR Code ในการรับโอนเงินเข้าบัญชีคนร้าย แต่คนร้ายจะหลอกว่าให้เหยื่อสแกนเพื่อจะทำการโอนเงินค่าสินค้าหรือบริการคืนให้กับเหยื่อ หากเหยื่อไม่ตรวจสอบให้ดีก็อาจทำให้สูญเสียเงินในบัญชีธนาคารให้คนร้ายได้
3. QR Code ดังกล่าว นำไปสู่หน้าเว็บไซต์เพื่อทำการดาวน์โหลดมัลแวร์ หรือไวรัสคอมพิวเตอร์ หากเหยื่อไม่ดูให้ดีแล้วดาวน์โหลดไฟล์มาติดตั้งในเครื่องก็อาจทำให้เสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูล บัญชีผู้ใช้งาน หรือรหัสผ่านได้
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ขอให้ระมัดระวังในการดาวน์โหลดโปรแกรม กรอกข้อมูล หรือทำธุรกรรมผ่านการสแกน QR Code โดยให้ตรวจสอบความถูกต้องในการทำรายการก่อนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคนร้าย และหากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวกรุณาแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง