สาวจบใหม่ขอระบาย ทำงาน 5 วันโดนเจ้านายไล่ออก ชาวเน็ตได้อ่านถึงกับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "สมควรแล้ว" โดยเธอนั้นเริ่มเล่าว่า "คือเราโดนไล่ออกค่ะ เรารู้ว่าเราเข้าใจยาก" พร้อมบอกว่าตนเพิ่งจบจากม.ราชภัฏ ซึ่งเจ้านายได้บอกเอาไว้ว่าค่อนข้างแอนตี้เพราะเคยเจอคนที่จบจากราชภัฏมาทำงานด้วย 4 คน แต่ทำเรื่องไว้จนเข็ด ทั้งเสียบหูฟังคุยกับแฟนทั้งวัน บางคนเป็นเป็นฝ่ายกฎหมาย แต่ติดต่อไม่ได้ทั้งวัน บางคนรับมาทำธุรการ ทำงานอะไรก็ทำไม่ได้ ผิดพลาดไปหมด
บริษัทนี้เป็นบริษัทสตาร์ตอัปเล็กๆ ครั้งนี้เธอได้โอกาสทำงานแอดมิน เงินเดือน 12,000 บาท ประกันสังคมจ่ายให้เต็ม สวัสดิการ ที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต เงินเดือนขึ้นตามผลงาน และไม่มีนโยบายตอกบัตร ให้ดูแลตัวเอง เข้างาน 09.00น.
แต่แค่วันแรกเธอก็เข้างานสาย แถมเอาเวลางานไปทำธุระส่วนตัวด้วย เธอบอกว่า ต้องย้ายของเข้าห้องพักที่บริษัทจัดไว้ให้ ทาง บริษัทเลยให้เข้างาน 11.00 น. แต่ตอนเช้าวันนั้นเธอมีธุระเลยไปเอาของที่หอ ทำให้เข้างานเป็น 11.40 น. ซึ่งเมื่อมาถึงเจ้านายก็ถามว่าทำไมมาสาย เมื่อเธอตอบไป เจ้านายก็บอกว่าถ้าจะเข้างานสายก็ควรแจ้งกัน แค่นั้นไม่พอ เธอบอกว่ายังย้ายของไม่เสร็จ แล้ววันนั้นทำงานวันแรกเธอเลยว่างจึงโทรให้แฟนมารับไปจัดการธุระต่อ เจ้าของบริษัทก็โทรมาตามว่าหายไปไหน เจ้านายจ่ายค่าจ้างเต็มวันนะ แล้วก็รู้ใช่ไหมว่านี้เริ่มงานแล้ว เธอก็ตอบรับไปแต่ใจก็งงว่าไหนว่าไม่มีการเช็ค ไม่ต้องตอกบัตร
ต่อมาต้องเรียนรู้งานกับคนเก่าซึ่งวุฒิต่ำว่า แต่สอนงานเธอไม่รู้เรื่องสอนไม่เข้าใจ และยังมีเรื่่องโต๊ะทำงานที่ไม่เรียบร้อยซึ่งก็โดนเจ้านายตำหนิ ต่อมาทำงานเสร็จก็นั่งเงียบไม่บอกใคร เจ้านายถามว่าทำไมงานเสร็จแล้วไม่บอกจะได้มอบหมายงานอื่นๆให้ คำตอบของสาวรายนี้คือ "เป็นคนไม่ชอบตอบ" และเรื่องสินค้า เธอยอมรับว่าบริษัทมีสินค้าแค่ 3 แบบ แต่สอนแค่ไหนเธอก็จำไม่ได้สักที
-ก.พลังงาน แนะใช้ "เตามหาเศรษฐี" ช่วยประหยัด ทำชาวเน็ตคอมเมนต์เดือด
-เพจดังขุดภาพ เจ้าของ "ดารุมะซูชิ" ใช้ชีวิตหรู หลอกเงินแซลมอนเปย์แฟน
-ดราม่า "อัยการดาว" โดนทัวร์ลงทันที หลังออกมาพูดถึงปมข้อหาของคนบนเรือ
วันต่อมา เจ้านายได้ให้เฟซบุ๊กปลอมมา เพื่อให้เธอเข้าไปแชทที่ใช้ตอบลูกค้าที่ถามมาหลังไมค์ แต่เธอกลับลืมทำ พี่อีกคนมาก็เลยถามว่าไม่เข้าไปในเช็คในแชทเหรอ แต่เธอบอกว่าเธอเข้าไม่ได้และรอให้เจ้านายมาก่อน เมื่อเจ้านายมาถึงก็ดุว่าทำไมเธอไม่เข้าไปในเฟซบุ๊กเพื่อตอบลูกค้า เธอก็บ่ายเบี่ยงนึกว่าเฟซบุ๊กนั้นยังไม่ได้เชื่อมต่อกับหน้าเพจ
ตอนบ่ายเธอต้องเข้าไปในคลังเพื่อแพ็กของอีกรอบ และไม่รู้ว่ากุญแจอยู่ไหน จะหยิบกุญแจเข้าคลังได้ไหม เลยไปถามเจ้านาย แต่เจ้านายตอนนั้นติดสายคุยกับลูกค้า เธอเลยเดินกลับไปที่ตึก และเดินกลับมาใหม่ เห็นเจ้านายยังคุยกับลูกค้าอยู่เหมือนเดิม เธอเลยถามว่าจะขอกุญแจเข้าคลังได้ไหม เจ้านายก็ดุว่าเมื่อกี้มาแล้วน่าจะรอก่อน และตอนเจ้านายว่างก็ไม่มาถาม ซึ่งปกติกุญแจเข้าคลัง พนักงานดูแลกันเอง ซึ่งพบว่าจริง ๆ กุญแจอยู่หน้าประตู และสามารถหยิบได้เลย เธอไม่รู้เรื่องก็เลยคิดว่าก่อนจะใช้กุญแจควรถามก่อน
วันที่ 3 เจ้านายให้แพ็กของ 3 ชิ้นและแจ้งเลขพัสดุลูกค้า แต่เพราะไม่เคยทำเลยทำงานช้า เจ้านายก็ดุว่าทำไมทำงานช้า เลขพัสดุ 3 กล่อง ปกติคนอื่นทำ 5 นาทีก็เสร็จแล้ว
และเรื่องเพิ่มแต้มให้ลูกค้า ลูกค้าพิมพ์ว่า "แต้มปัจจุบันของเราเดือนนี้มี 200 แต้มค่ะ" ซึ่งเธออ่านไม่เข้าใจ ว่านี่คือแต้มทั้งหมดที่มี หรือแค่แต้มเฉพาะเดือนนี้ เธอเลยเพิ่มแต้มให้ลูกค้าไป 200 แต้ม
พอโดนเจ้านายดุว่าเธออ่านภาษาไทยไม่เข้าใจหรือย่างไร เธอก็บอกว่าไม่เข้าใจ เจ้านายเลยให้คนที่รับมาใหม่มาอ่าน สรุปได้ว่าลูกค้าคนนั้นใช้แต้มไปแล้วจนแต้มหมด เรื่องนี้เธอบอกว่าอายมากเพราะหากเจ้านายจะตำหนิก็ควรไปตำหนิกันส่วนตัวไม่ใช่เรียกคนอื่นมาฟัง
และที่ทำให้ถึงขั้นโดนไล่ออกคือ เธอพิมพ์ตอบลูกค้าใช้ภาษาไทยผิด บอกข้อมูลลูกค้ามั่ว ที่สำคัญไปลบข้อมูลการขายของบริษัทอีกต่างหาก
โดยเรื่องนี้ในวันที่ 5 ของการทำงาน เจ้านายถามว่าเธอจัดการเรื่องเลขพัสดุหรือยัง เธอก็บอกว่าจัดการแล้ว แต่สักพักเจ้านายก็บอกว่า จะบอกว่าจัดการเรื่องเลขพัสดุได้อย่างไร ในเมื่อเธอไม่อ่านแชต ซึ่งในความเป็นจริง เจ้านายได้แชตไปบอกในเฟซที่ใช้เชื่อมกับเพจของร้าน แต่เธอกลับไม่ได้ออนเฟซบุ๊กนั้น และเจ้านายก็บอกว่าเวลางาน เฟซบุ๊กนั้นต้องออนตลอดไม่ใช่เหรอ เธอเลยเงียบ
จากนั้น เธอก็ได้รับเรื่องมาว่า เลขพัสดุที่ให้นั้น ลูกค้าไม่สามารถเช็คได้ ซึ่งเธอบอกลูกค้าว่า พัสดุที่ส่งไปเป็นของ บริษัทหนึ่ง แต่จริง ๆ คืออีกบริษัท ลูกค้าเลยเช็คเลขพัสดุไม่ได้ เจ้านายเลยดุว่าเธอทำแบบนี้ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าร้านไม่มีมาตรฐาน แจ้งเลขผิด ๆ ถูก ๆ และเมื่อเธอตอบคำถามลูกค้า โดยอ้างอิงจากแชทเก่าๆ ก็พบว่าเธอพิมพ์ผิด ใช้คำผิด ทั้งที่ตอนประกาศหางานต้องการคนใช้ภาษาไทยได้ดี
นอกจากนี้ เมื่อลูกค้าถามว่า มีสาขาในห้างไหม เธอไม่รู้ ก็ตอบลูกค้าว่าไม่มี เจ้านายมาเห็นเลยบอกให้เธอหยุดตอบแชทลูกค้า มีสิทธิ์อะไรไปตอบแบบนั้น เอาข้อมูลที่ไหนไปตอบ เจ้านายงานยุ่ง เหนื่อยที่ต้องตามแก้งาน เธอเลยไปลบแชทลูกค้า เนื่องจากยกเลิกข้อความทางเพจไม่ได้ เจ้านายก็มาดุซ้ำว่าลบทำไม ตั้งแต่เปิดแบรนด์มาบริษัทไม่เคยลบอะไรเลย เพราะถือเป็นข้อมูลของลูกค้า ซึ่งจุดนี้เธอก็ขอโทษและยอมรับผิด
สุดท้าย เจ้านายบอกว่าไม่ต้องให้เธอมาทำงานอีกแล้ว และครั้งหน้าจะไม่รับคนที่จบจากราชภัฏมาแล้ว ส่วนที่พักที่ให้อยู่ฟรี สามารถอยู่ต่อได้ก่อน สะดวกค่อยย้ายออก แต่เธอไม่อยากอยู่แล้วเลยให้แฟนมารับออกไป
ชาวเน็ตได้อ่านถึงกับเดือดงานนี้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเรื่องที่เธอเล่ามาเหมือนเธอนั้นยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรผิด และบอกด้วยว่านี่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของสถาบันแล้ว แต่เป็นเรื่องของพฤติกรรมและคุณภาพงานของเธอต่างหาก