เตาอั้งโล่ กับ เตามหาเศรษฐี ต่างกันอย่างไร
เตาอั้งโล่ เตาซุปเปอร์อั้งโล่ เตามหาเศรษฐี เตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง คุณสมบัติเด่นเรื่องอะไร มีความต่างกันอย่างไร และดีอย่างไร
เตาอั้งโล่ ประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากเฟซบุ๊ก กระทรวงพลังงาน ได้แชร์โพสต์ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เชิญชวนให้คนไทยลดการใช้พลังงานและหันมาใช้ “เตาอั้งโล่” หรือ เตามหาเศรษฐี ที่ประหยัดฟืน ประหยัดไม้ และถ่านที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้
เตาอั้งโล่ กับ เตามหาเศรษฐี ต่างกันอย่างไร
เตาอั้งโล่คือ
เตาอั้งโล่เป็นอุปกรณ์สำหรับก่อไฟให้ความร้อนในการหุงต้มอาหาร
ประวัติเตาอั้งโล่
เชื่อกันว่านำมาจากประเทศจีน เนื่องจากคำว่า "อั้งโล่" มาจากภาษาแต้จิ๋ว แปลว่าเตาสีแดงซึ่งเป็นสีของดินเผา ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีการนำมาใช้ในดินแดนประเทศไทยแต่เมื่อใด สันนิษฐานว่าอาจจะมีการนำเข้ามาเมื่อราว 100 ปีมาแล้ว เนื่องจากมีการค้าขายเริ่มแรกระหว่างประเทศไทย-จีน หรืออีกนัยหนึ่ง อาจจะมีการนำเข้ามาเมื่อตอนชาวจีนพวกหนึ่งอพยพเข้ามาในประเทศไทยเนื่องจากเกิดสงครามกลางเมืองในช่วงราว 100 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีการสันนิษฐานว่ามีการนำเข้าเตาอั้งโล่มาจากประเทศจีนก็ตาม แต่ชุมชนต่างๆ ในไทยก็สามารถผลิตเตาอั้งโล่เพื่อใช้เองในครัวเรือนได้เนื่องจากมีความนิยมใช้ค่อนข้างมาก จึงค่อยมีการริเริ่มทำเลียนแบบและพัฒนาจนสามารถทำเองได้ในที่สุด
เตาอั้งโล่ มีราคาประมาณ 90 - 200 บาท
เตาอั้งโล่ กับ เตามหาเศรษฐี ต่างกันอย่างไร
เตามหาเศรษฐีคือ
เตามหาเศรษฐี เป็นเตาที่ได้พัฒนาขึ้นมาทดแทนเตาอั้งโล่ท้องตลาดที่ใช้อยู่ทั่วไป มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนเฉลี่ย 29%
คุณสมบัติของเตามหาเศรษฐี
- มีลักษณะเพรียวและน้ำหนักเบากว่า
- ให้ความร้อนสูง อุณหภูมิกลางเตาประมาณ 1,000 – 1,200 องศาเซลเซียส
- ประหยัดถ่านกว่าเตาอั้งโล่ท้องตลาด 30 – 40%
- วางภาชนะหุงต้ม(หม้อ) ได้ 9 ขนาด ตั้งแต่เบอร์ 16-32
- ขณะหุงต้มไม่มีควันและก๊าซพิษเกิดขึ้นเนื่องจากเผาไหม้สมบูรณ์
- อายุการใช้งานเฉลี่ยมากกว่า 2 ปี
เตามหาเศรษฐี มีราคาประมาณ 200 - 250 บาท
เตามหาเศรษฐี กับ เตาอั้งโล่ ต่างกันอย่างไร
เตาอั้งโล่ กับ เตามหาเศรษฐี ต่างกันอย่างไร
เตาอั้งโล่ท้องตลาด
- รูปแบบโบราณ
- ใหญ่ หนา เทอะทะ
- วางหม้อได้แค่ขนาดเล็ก 1-2 ขนาด
- เส้าเตาสูงและขอบเตาเว้ามาก
- สูญเสียความร้อนมาก
- ช่องบรรจุถ่านใหญ่ ต้องใส่ถ่านมากเกินความจำเป็น
- รังผึ้งบาง ชำรุดง่าย
- รูรังผึ้งใหญ่ดูดอากาศไม่ดี
- ไม่มีฉนวนกันความร้อน หรือมีแต่บางเก็บความร้อนไม่ดี
- ถังเปลือกเตาบาง ผุกร่อนเร็ว
- ความร้อนต่ำ 500-600 องศาเซลเซียส
- อายุการใช้งานสั้นประมาณ 1 ปี
- สิ้นเปลืองถ่านสูง ไม่ประหยัดถ่าน
เตาซุปเปอร์อั้งโล่ หรือ เตามหาเศรษฐี
- ออกแบบถูกต้องตามหลักวิชาการ
- เพียว เคลื่อนย้ายสะดวก
- วางหม้อได้ 9 ขนาด เบอร์ 16-32
- เส้าเตาสูงกวาขอบเตาเล็กน้อยและขอบเตาเสมอกันโดยรอบ
- สูญเสียความร้อนน้อย
- ช่องบรรจุถ่านเล็ก บรรจุถ่านได้ 400-500 กรัม พอเหมาะต่อ 1 มื้อ
- รังผึ้งหนา และทนทาน
- รูรังผึ้นเล็กและเรียว และดูดอากาศได้ดี
- มีฉนวนกันความร้อนได้นาน
- ถังเปลือกเตาหนา ผุกร่อนช้า
- ความร้อนสูง 1,000-1,200 องศาเซลเซียล
- อายุการใช้งานยาวนาน มากกว่า 2 ปี
- สิ้นเปลืองถ่านน้อย ประหยัดถ่านได้ 30-40%
เตาอั้งโล่ กับ เตามหาเศรษฐี ต่างกันอย่างไร
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ เตาอั้งโล่ เป็นเตาที่ต้องใช้ฟืนและถ่านเป็นเชื้อเพลิง เมื่อมีการใช้เตาอั้งโล่กันมาก ย่อมแสดงว่า เตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง หรือ เตาซุปเปอร์อั้งโล่ มีการตัดไม้สำหรับมาทำฟืนและถ่านก็ต้องมีมากตามปริมาณการใช้เตาเช่นกัน
ถ้าไม้ที่ตัดได้โดยถูกต้องตามกฎหมายหมดไป การบุกรุกตัดไม้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ และปัญหาของประเทศไทยขณะนี้ก็คือ ป่าไม้ ซึ่งเป็นทั้งต้นน้ำ ลำธาร ที่อยู่ของสัตว์ป่า แหล่งอาหารของคนและสัตว์ แหล่งรักษาสมดุลทางธรรมชาติที่ช่วยให้บรรยากาศของโลกพอเหมาะ ให้สิ่งมีชีวิตสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ดังนั้น หากยังปล่อยให้มีการใช้ฟืนและถ่านในปริมาณมากต่อไป โดยไม่มีการควบคุมป่าอาจหมดไปจากประเทศไทยเช่นกัน
ขอบคุณ : สำนักงานพลังงานแห่งชาติ กรมวิเทศสหการ