คืบหน้าไฟไหม้สำเพ็ง จากกรณีเมื่อวันที่ 26มิ.ย.65 ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุระทึกไฟไหม้สำเพ็ง โดยเป็นอาคารของ บริษัท ราชวงศ์รุ่งเรือง จำกัด ค้าถุงพลาสติก ตั้งอยู่เลขที่ 157 ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. ก่อนลุกลามไปยังอาคารข้างเคียงหลายคูหา โดยเหตุเพลิงไหม้สำเพ็งมีผู้เสียชีวิต 2 รายเเละมีผู้บาดเจ็บ 11 ราย เเละมีรถประชาชนที่จอดได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ จำนวน 3 คัน เบื้องต้นไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท
ล่าสุดจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีอาคารพาณิชย์ได้รับความเสียหายประมาณ 4 คูหา ซึ่งจากการประเมินมีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท โดย น.ส.อาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปเร่งสำรวจสายไฟเก่า เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า และช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา
หากพบจุดที่มีความเสี่ยงก็ให้แจ้งมายังสำนักงานเขตฯได้ รวมถึงจะเชิญการไฟฟ้ามาประชุมร่วมกันว่าให้ไปตรวจสอบว่าในพื้นที่ มีหม้อแปลงไฟฟ้าเก่าเกินอายุที่สมควร คือ มากกว่า 20 ปี หรือไม่ เพราะจากข้อมูลของการไฟฟ้าระบุว่าหม้อแปลงไฟฟ้าที่มีอายุเกิน 20 ปี จะต้องได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษ
และหากในพื้นที่ยังมี หม้อแปลงประเภทนี้อยู่ก็จะประสายให้ดำเนินการดูแลเปลี่ยนใหม่ หรือซ่อมแซม ให้สมบูรณ์อย่างรัดกุมมากขึ้นต่อไป ส่วนหม้อแปลงบริเวณหน้าร้านที่เกิดเหตุนั้นตนไม่สามารถตอบได้ว่ามีอายุการใช้งานมากี่ปี แต่เท่าที่สังเกตด้วยสายตาเชื่อว่าน่าจะใช้งานมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์นี้ทางเขต จะมีการอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จึงจะถือโอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบเรื่องการดูแลสายไฟ และมาตรการป้องกันระวังภัยเกี่ยวกับสายไฟฟ้าด้วยอีกทางหนึ่ง
-อัพเดท "ไฟไหม้สำเพ็ง" ปชช.แฉมีปัญหาตลอด พบหม้อแปลงอายุเกิน 20 ปี
-เกิดเหตุเพลิงไหม้ย่านสำเพ็ง "หม้อแปลงระเบิด" ลุกลามบ้านเรือนปชช.
-จนท.เร่งช่วยคนในอาคารไฟไหม้สำเพ็ง เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ไหม้รถยนต์อีกหลายคัน
ทั้งนี้ นายสุชาติ กิตติฤดีกุล เจ้าของตึกเล่าว่า หม้อแปลงนี้เคยระเบิดมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ได้แจ้งการไฟฟ้าไปก็มาซ่อม แต่ก็ไม่เห็นทำอะไร จนเกิดระเบิดอีก เป็นปัญหาซ้ำซาก ตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก ร้านนี้เปิดมา 6 ปี เป็นสาขาที่ 4 มีการทำประกันอัคคีภัยไว้ เบื้องต้นคาดว่าจะฟ้องการไฟฟ้าฯ จะปรึกษานักกฎหมาย
ขณะที่ นายเกียรติศักดิ์ แซ่แต้ เจ้าของร้านพิชิตชัยค้าของเล่นเด็ก ซึ่งอยู่ติดกับห้องต้นเพลิง ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปด้วย เปิดเผยว่า โชคดีที่เมื่อวานนี้ทางร้านปิดให้บริการ ไม่เช่นนั้นตนและลูกจ้างอีก 5-6 คนไม่รู้จะมีชะตากรรมเป็นเช่นไร จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สินค้าและโครงสร้างอาคารร้านตนได้รับความเสียหายทั้งหมด ประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ทั้งตนและเจ้าของร้านต้นเพลิงรวมถึงผู้เสียหายรายอื่นๆ จะดำเนินการแจ้งความฟ้องร้องกับการไฟฟ้าฯเพื่อให้ร่วมรับผิดชอบความเสียหายอย่างแน่นอน