เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก สมาพันธ์แพทย์ รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป ได้มีการแชร์กระทู้พันทิปของสมาชิกรายหนึ่งที่ตั้งหัวข้อไว้ว่า "ใครอยากให้ลูกเป็นหมอ รพ.รัฐ ยุคนี้ หนีไปค่ะ หนีไป" ซึ่งทางเจ้าของกระทู้เล่าเรื่องโพสต์ระบายถึงเรื่องราวการเป็นหมอของโรงพยาบาลหน่วยงานรัฐที่ งานหนัก เงินน้อย เงินเดือนได้ไม่ครบ โดยระบุใจความไว้ว่า
"คิดให้ดี..คิดให้เยอะๆ คิดให้หนักๆ เพราะชีวิตมีชีวิตเดียว ย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ภาระงานหนัก เงินน้อย!!! อยู่ก็เหมือน ตกนรกทั้งเป็น เงินเดือนได้ไม่ครบ ออกไม่ตรง ตกเบิก 6-8 เดือน หรือมากกว่านั้น (แต่หนี้ของเราต้องจ่ายตรงทุกงวดนะ)
ค่าตอบแทนไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่ต้องรับผิดชอบ หลายครั้งทำงานเกินหน้าที่ฟรีๆ ไม่มี DF(มีเฉพาะทางนะ แต่ก็คอนเซ้าท์ยาก หรือกินหัวกัน) พักผ่อนน้อย ลายากมากถึงยากที่สุด!! ไม่มีเวลาได้ใช้ชีวิต ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง และครอบครัว ถึงป่วย ก็ต้องมาทำงาน ถ้าหาคนแทนไม่ได้ ทำงานจนตัวเองป่วย ก็ต้องทำงานวนไปค่ะ จนกว่าจะตายไปข้างนึง
-นักดื่มเตรียมตัว "เบียร์ลีโอ" เเจ้งปรับขึ้นราคาอีก เริ่ม 1 ก.ค.นี้
-กยศ.ขยายเวลาลดหย่อนหนี้ แถมลดต้น - ลดดอก เช็คสิทธิ์ได้เลย
-คุณครูเอะใจ นร.กระเป๋าตุงแปลกๆ ก่อนขอดูถึงกับขำลั่น ทำเอ็นดูทั้งโซเชียล
ติดโควิด ก็ต้องไปทำงานนะ ไม่ได้หยุด รับผิดชอบหน้าที่เกินมนุษย์คนนึงจะทำได้!! การอยู่เวรคือ ต้องอยู่เฝ้า รพ. รับผิดชอบคนเดียว สวัสดิการไม่มี บ้านพักไม่มี ที่มีก็ต่อคิวกันจะเป็นจะตาย ไม่รู้คนได้บ้านทำบุญด้วยอะไร
ใครบอกว่าทำงานกินภาษีประชาชน ช่วยตามมาจ่ายเงินเดือน ค่าตอบแทนให้ครบทีค่ะ ค้างมาเกินครึ่งปีแล้ว ชีวิตลำบากมาก เงินเดือน 2 หมื่น เป็นค่าน้ำมันเดินทางไปกลับ รพ.เกือบหมื่น จะเหลืออะไรกินคะ ตัวเองยังแทบเอาตัวไม่รอด ไม่มีเหลือให้พ่อแม่เลยค่ะ มาทำงานค่ะ ไม่ได้ทำการกุศล ไม่ได้โลกสวย ทุกคนต้องดิ้นรนเพื่ออยู่รอดในสังคมอันโหดร้าย มาทำงานค่ะ ไม่ได้ทำการกุศล ไม่ได้โลกสวย ทุกคนต้องดิ้นรนเพื่ออยู่รอดในสังคมอันโหดร้าย
ใครบอกอยู่ไม่ได้ ให้ไปลาออก ช่วยจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนให้ครบก่อนค่ะ แล้วจะออกทันที ไม่หันหลังกลับเลย พี่คนนึงเคยพูดไว้ว่า ข้าราชการไส้แห้ง ออกมาอยู่เอกชนเพื่อครอบครัวดีกว่า อันนี้เรื่องจริง เห็นด้วยมากที่สุด ศักดิ์ศรีกินไม่ได้ แต่ครอบครัวต้องใช้เงิน ชีวิตดำเนินต่อไปได้ด้วยเงิน
ทุกวันนี้ไม่ได้หวังร่ำรวยอะไรนะคะ หวังแค่มีชีวิตอยู่รอดไปวันๆ เพราะ รพ.ค้างจ่ายเงินเยอะมากๆ ทำงาน 100 ได้ค่าตอบแทน 50 งี้ แทบเอาชีวิตเดือนๆนึงไม่รอดค่ะ ค่าใช้จ่ายในการสร้าง หมอ คนนึง คือพ่อแม่ลงทุนเยอะมาก แต่ที่ได้กลับมาคือไม่คุ้มกับการลงทุนเลย
ใครพลาดให้ลูกมาเรียนแล้ว ก็อย่าบังคับให้ลูกทำงานราชการ หรืออยู่ รพ.รัฐนะคะ ชีวิตแย่มากๆ ไปทำ skin หรืออยู่เอกชนโน่นค่ะ แพทย์ รพ.รัฐยุคนี้ล้นแล้ว ต้องตำแหน่งรอบรรจุ มีอีกหลายอาชีพ ที่สามารถดูแลตัวเองและเลี้ยงครอบครัวได้ โดยไม่ต้องลำบากขนาดนี้ มันหมดยุคที่สังคมเทิดทูนหมอแล้วค่ะ ทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกัน และต้องดิ้นรนในการมีชีวิตเหมือนกัน อาชีพ หมอ รพ.รัฐ ไม่ได้สวยหรูแบบที่ใครเข้าใจ เพราะความจริง มันห่วยแตก และต้องดิ้นรน สู้ชีวิตมากๆ"
อย่างไรก็ตามหลังจากที่กระทู้ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีคุณหมอที่ทำงานในโรงพยาบาลรัฐออกมาแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน บางคอมเมนต์แนะนำให้คุณหมอที่ประสบปัญหาดังกล่าวลาออกแล้วฟ้องร้องต่อศาล เพื่อให้ได้รับค่าตอบแทนที่ยังคงค้าง ดีกว่าทำงานไปเรื่อยๆ แล้วยังไม่ได้เงิน แถมยังเสียสุขภาพจิต
ขณะที่บางคนก็ระบุว่า ผมว่าคนเป็นหมอ สำคัญสุดไม่ใช่ความรู้ แต่เป็นเรื่องของความเสียสละ คือจิตวิญญาณของคุณมันต้องได้จริงๆ นั้นแหละ ที่จะเอาตัวเองไปยืนตรงนั้น ความลำบาก เหนื่อยยาก น้อยเนื้อต่ำใจ มันต้องมาอยู่แล้วและไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบตรงนี้ได้ ผมว่าคนที่จะเลือกเส้นทางนี้เค้าต้องรับรู้ข้อมูลตรงนี้ดีอยู่แล้วนะ ที่ผ่านมาผมรับรู้ได้ว่าหมอเหนื่อยลำบาก แต่ไม่เคยเจอหมออกมาบ่นนะ เพราะหมอเค้าก็ต้องรู้ตัวของเค้าดีอยู่แล้วแหละ
ดังนั้นถ้าคุณประเมินแล้วว่า คุณไม่ใช่คนที่พร้อมจะเสียสละขนาดนั้น ที่ผ่านมาคุณเข้าใจผิดหลงทางเข้ามา คุณก็ต้องเปลี่ยนอาชีพแล้วแหละ อาชีพที่ทำเงินได้ รวย แต่ไม่เหนื่อยไม่เสี่ยงเท่าหมอ มีแยะ ไม่จำเป็นต้องเลือกเป็นหมอ แต่อาชีพนี้ก็มีข้อดีในบั้นปลาย คือ เริ่มมีชื่อเสียงมีความสามารถ ก็จะเหนื่อยน้อยลงได้เงินมากขึ้น ดังนั้นช่วงแรกมันก็ต้องอดทนมากหน่อย เพื่อความสบายช่วงอายุขึ้นเลข 4 เลข 5 ไปแล้ว เป็นต้น
ขอบคุณ สมาพันธ์แพทย์ รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป , สมาชิกหมายเลข 2232190