จากกรณีที่ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวการเฝ้าระวังโควิด 19 สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ว่า จากการตรวจสายพันธุ์เบื้องต้นช่วงวันที่ 25 มิ.ย. - 1 ก.ค. 65 พบว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอน 100%
จำนวนนี้เป็นสายพันธุ์ย่อย BA.4/BA.5 ครึ่งหนึ่งคือ 51.58% เพิ่มขึ้นจาก 2 สัปดาห์ก่อนที่พบจากประมาณ 6.7% และ 44.3% คาดว่าอีกไม่นานจะแทนที่ตัวเก่า BA.2 ซึ่งขณะนี้พบ 47.15% ส่วนผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่เริ่มกลับมาพบมากขึ้นนั้น ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดจากเชื้อ BA.4/BA.5 ทำให้มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งยังต้องรอการพิสูจน์ เนื่องจากตามปกติเมื่อมีการติดเชื้อมากขึ้น สัดส่วนของผู้ป่วยอาการหนักก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
-พบเอกสารปลอมเพื่อรับค่าสินไหมทดแทนประกันภัยโควิด กว่า 500 ล้านบาท
-อธิบดีกรมควบคุมโรค คาดสถานการณ์โควิดรุนแรงขึ้นจากงานเลี้ยงหรือปาร์ตี้
-5 อาการ "โควิดสายพันธุ์ใหม่" BA.5 เมื่อติดเชื้อแล้วเชื้อจะลงปอดเลยจริงไหม?
ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูลตัวอย่างกลุ่มที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพื่อสำรวจภาพรวมของประเทศ จำนน 175 ราย เป็น BA.4/BA.5 ประมาณ 35.8% เมื่อแยกดูตามกลุ่มต่างๆ พบว่า กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 44 ราย พบ 29.5% กลุ่มผู้ติดเชื้อที่มีค่า CT ต่ำหรือติดเชื้อเยอะ 19 ราย พบ 29.5% และกลุ่มที่มีอาการรุนแรง 11 ราย พบ 36.4% ก็จะเห็นว่าสัดส่วนไม่ได้แตกต่างกัน จึงยังไม่ปรากฏว่ามีความรุนแรงจาก BA.4/BA.5 เมื่อเทียบกับ BA.2 เดิม เพียงแต่กลุ่มผู้ป่วยอาการรุนแรงยังมีตัวอย่างน้อย 11 ราย จึงขอความร่วมมือโรงพยาบาลส่งตรวจในกลุ่มคนไข้อาการหนักใส่ท่อช่วยหายใจมากขึ้น ก็จะทำให้ตัวเลขทางสถิติแม่นยำมากขึ้น ส่วนผู้เสียชีวิตยังไม่พบ BA.4/BA.5 ยังเป็น BA.2
ขอบคุณศูนย์ข้อมูลจาก COVID-19
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews