เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก เมื่อ ร้านกับข้าวแกงถุงภายในตลาดเช้าเขตเทศบาลตำบลหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งนายกิติรัตน์ พันธ์นุ่ม อายุ 39 ปี และ น.ส.สุธิราภรณ์ เบิกสูงเนิน อายุ 36 ปี ตั้งโต๊ะขายโดยยืนหยัดขายข้าวแกงราคาถุงละ 10 บาท มานานถึง 7 ปี จนกลายเป็นเอกลักษณ์ และเป็นขวัญใจของประชาชนที่มาจับจ่ายซื้ออาหารในตลาดเช้า โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย
น.ส.สุธิราภรณ์ เปิดเผยว่า ราคาวัตถุดิบทั้งหมู ไก่ และผักสดชนิดต่าง ๆ รวมถึงพริกหอม กระเทียม น้ำมันพืช และแก๊สหุงต้ม แพงขึ้นมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ยืนยันว่าจะขายราคา 10 บาท ไปจนกว่าจะสู้ไม่ไหว
โดยก่อนหน้านี้เคยขายได้กำไรวันละกว่า 1,000 บาท ตอนนี้กำไรลดมาเหลือประมาณ 500 กว่าบาท ถ้าคิดหักค่าตัว 2 คนผัวเมียก็จะไม่เหลือกำไรเลย แต่ดีกว่าหยุดขาย อย่างไรก็ตาม แม้ราคา 10 บาท แต่คุณภาพและปริมาณไม่ได้น้อยตามราคา โดยแต่ละวันจะทำเมนูแกง ผัด ต้ม และยำต่าง ๆ 7 - 8 อย่าง หมุนเวียนกันไป ขายตั้งแต่ 05.00 – 10.00 น. ขายหมดทุกวัน มีลูกค้าทั้งขาประจำและขาจร รวมถึงลูกค้าที่รับไปขายต่อ แต่ละวันจะขายวันละ 400 – 500 ถุง หรือวันละ 4 – 5 พัน บาท
ทั้งนี้วัตถุดิบที่แพงขึ้นดังกล่าว โดยเฉพาะช่วงนี้ราคาเนื้อหมูที่เป็นวัตถุดิบเมนูหลัก ทั้งผัด แกง ต้ม มีราคาปรับแพงขึ้นมาก สู้กับต้นทุนไม่ไหวที่จะมาขายแกงถุงละ 10 บาท เพราะเดิมที่ยังไม่ปรับขึ้นราคาเนื้อหมูก็กำไรน้อยอยู่แล้ว
จึงจำเป็นต้องปรับลดจำนวนเมนูแกงถุงที่ปรุงมาจากเนื้อหมูลงก่อน หันมาในเมนูเป็นไก่ ปลา และประเภทผัดผักแทน ซึ่งราคาแพงอยู่เช่นกัน แต่ยังถูกกว่าเนื้อหมู
สำหรับกำไรที่ได้น้อยในแต่ละวัน แต่ก็ไม่ย่อท้อ มีความสุขที่ได้แบ่งปันและช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายซึ่งกันและกัน บางวันมีคนยากจนเดินมาขออาหารที่ร้าน ตนเองทั้งคู่ก็ให้อาหารไปกินเป็นประจำ ทำแล้วก็รู้สึกดีและมีความสุข ไม่ต้องคิดอะไรมาก
ภาพข่าว จาก สามสอ จันทรังษ์ สำนักข่าวเนชั่น จังหวัดอุทัยธานี