ลูกศิษย์เศร้ากราบอาลัย จากกรณีที่ วันที่ 12 ก.ค. 65 มีรายงานว่า หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ หรือ พระครูภาวนาภิรัต วิ. แห่งวัดป่าอาจารย์ตื้อ บ้านปากทาง ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 65 เวลา 15.00 น. ที่ผ่านมาสิริอายุ 92 ปี พรรษา 72 ท่ามกลางความเศร้าอาลัยของศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย
โดยกำหนดการพิธีถวายน้ำสรงสรีรสังขาร พระครูภาวนาภิรัต (หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ) อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้อ ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
-วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
เวลา 10.00 น. เคลื่อนสรีรสังขารองค์หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ จากุฏิสู่ ศาลาบำเพ็ญกุศล วัดป่าอาจารย์ตื้อ จากนั้นคณะสงฆ์และคณะศรัทธาสาธุชนถวายน้ำสรงศพจนถึงเวลา 16.00 น.
-เวลา 16.00 น. รับพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ
-เวลา19.30 น. พิธีบำเพ็ญกุศล แสดงพระธรรมเทศนาและสวดพระอภิธรรม
สำหรับประวัติ หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ พระอริยเจ้าแห่งวัดป่าอาจารย์ตื้อ นามเดิมชื่อ สังข์ นามสกุล คะลีล้วน กำเนิดตรงกับวันที่ 24 กันยายน พ.ศ.2473 บ้านเกิดของท่านอยู่ที่บ้านข่า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม บิดามารดา นายเฮ้า และ นางลับ คะลีล้วน พี่น้อง ท่านมีพี่ชายติดโยมบิดา 1 คน มีพี่ชายติดโยมมารดา 1 คน มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันจำนวน 4 คน ท่านเป็นลูกชายคนที่ 1
ท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งถือว่าสูงสุดในสมัยนั้น เมื่ออายุครบ 18 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ พัทธสีมา วัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม โดยมีพระสารภาณมุนี (หลวงปู่จันทร์ เขมิโย) เป็นพระอุปัชฌาย์ (ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพสิทธาจารย์) บรรชาเสร็จก็กลับมาจำพรรษาที่วัดอรัญญวิเวก บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซื่งเป็นบ้านเกิด
ในพรรษาแรกที่ท่านบรรพชาเป็นสามเณรอยู่วัดอรัญญวิเวกบ้านข่า หลังจากออกพรรษาแล้ว เคยไปกราบครูบาอาจารย์หลายรูป อาทิ หลวงปู่สีลา อิสฺสโร วัดป่าอิสสระธรรม บ้านว่าใหญ่, หลวงปู่อุ่น อุตฺตโม วัดอุดมรัตนาราม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร เป็นต้น
หลวงปู่สังข์ เมื่อครั้งบวชเป็นสามเณร ได้มีโอกาสเข้ากราบฟังธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือ ภายหลังเมื่อบวชเป็นพระภิกษุได้ศึกษาปริยัติธรรมพอสมควรแล้วก็ออกติดตามธุดงค์ไปกับหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ผู้เป็นทั้งอาจารย์และหลวงลุง ท่านเป็นสามเณรอยู่ 3 ปี สามารถสอบนักธรรมชั้นตรี และโท ได้จากสนามสอบวัดศรีชม ซึ่งเป็นวัดบ้านเพราะยุคนั้นสนามสอบของคณะธรรมยุติยังไม่มี
ต่อมา พ.ศ.2493 อายุ 20 ปีบริบูรณ์ ท่านได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดป่าบ้านสามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม โดยมีพระอาจารย์เกิ่ง อธิมุตตโก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระทัด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์บุญส่ง โสปโก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว ก็อยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านสามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม กับพระอุปัชฌาย์เป็นเวลา 5 ปี ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้ที่วัดป่าบ้านสามผงแห่งนี้ แล้วทำหน้าที่เป็นครูสอนนักธรรมช่วยพระอุปัชฌาย์
จากนั้นปี พ.ศ.2499 หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ จึงออกเดินทางขึ้นเหนือเพื่อมาอยู่กับหลวงปู่ตื้อ อจลธมโม ที่วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ต่อมา หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ได้สร้างวัดป่าสามัคคีธรรมขึ้นซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดป่าอาจารย์ตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ.2509 หลวงปู่สังข์ได้กลับจากเที่ยววิเวกมาจำพรรษากับหลวงปู่ตื้อที่วัดป่าอาจารย์ตื้อ ท่านได้พัฒนาและบูรณะวัดนี้มาโดยตลอด
ในปี พ.ศ.2523 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้ออย่างเป็นทางการ ท่านได้สร้างอุโบสถหนึ่งหลัง ในปี พ.ศ.2538 ได้รับพระราชสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระครูภาวนาภิรัต ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้มาจนถึงปัจจุบัน
ขอบคุณ 108prageji
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews