จากกรณี ลุงวินัย สรสิทธิ์ อายุ 64 ปี เกษตรกรชาวบ้านทับควาย ต.ชีวาน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา มองเห็นถึงอนาคตของการทำตลาดของอินทผลัมว่าเป็นสินค้าที่มีราคา จึงแบ่งพื้นที่ทำนาบางส่วนมาปลูกอินทผลัมเพื่อเป็นการกระจายรายได้ เมื่อราคาข้าวตกต่ำก็ยังมีผลผลิตของอินทผลัม แม้พื้นที่ปลูกจะเป็นดินที่ผ่านการทำนามาก่อนแต่ก็สามารถปลูกจนประสบผลสำเร็จ
ลุงวินัย เล่าว่า เป็นคนที่ชอบรับประทานอินทผลัม แต่ด้วยพืชชนิดนี้ในเมืองไทยยังค่อนข้างหาซื้อยาก จึงเป็นจุดประกายให้ตนเองคิดที่อยากจะปลูกเอง เพราะไม่กี่ปีให้หลังมานี้ข้าวมีราคาถูกและทำได้ปีละ 1 ครั้ง จึงได้เกิดความคิดที่อยากจะปรับเปลี่ยนจากพื้นที่นาบางส่วนมาแบ่งปลูกอินทผลัมเพื่อชดเชยรายได้แบ่งปลูก จำนวน 6 ไร่ ซึ่งนาก็ไม่ได้เลิกทำ ยังทำอยู่ เพียงแต่แทนที่เราจะปลูกข้าวอย่างเดียว เราก็มาปลูกทำเกษตรอย่างอื่นด้วย เพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้ครบทุกด้านอย่าทำพืชเชิงเดี่ยวอย่างเพียงเดียว
วิธีการปลูกและการเลือกซื้อสายพันธุ์นั้น ลุงวินัย บอกว่า ได้ศึกษาหาข้อมูลเรียนรู้จากแหล่งต่างๆ พร้อมทั้งเดินทางไปศึกษาจากเพื่อนๆ ที่ปลูกจนประสบผลสำเร็จ และ ที่สำคัญคือตนเองได้น้อมนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เกษตร "ทฤษฎีใหม่" ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ จากนั้นตนเองจึงได้ข้อสรุปเลือกอินทผลัมที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อมาปลูกการปลูกอินทผลัมนั้นมีการเตรียมพื้นที่ปลูกก่อนในช่วงแรก โดยให้บริเวณรอบๆ สวนมีร่องน้ำสำหรับระบายน้ำไม่ให้ท่วมขังภายในพื้นที่ปลูก เพราะอินทผลัมเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำขังอยู่บริเวณโคนต้น ดังนั้น ในเรื่องของการระบายน้ำออกจึงเป็นสิ่งสำคัญ
จนได้อายุเข้า 2 ปีครึ่ง อินทผลัมก็จะเริ่มเจริญเติบโตจนให้ผลผลิตได้ โดยราคาของอินทผลัมผลสด ที่สวนเราขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 300 บาท ซึ่งที่สวนมีอยู่ประมาณ 100 ต้น โดยปัจจุบันเปิดขายหน้าสวน มีลูกค้าเข้ามาเก็บผลผลิตเอง ทำมีรายได้เฉลี่ยวันละ 8,000-9,000 บาท เลยทีเดียว โดยใครสนใจสามารถโทรศัพท์ สอบถามได้ที่เบอร์โทร 093-4320455
ภาพ - ข่าวโดย ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ