ที่ สวนอินทผลัมคุณไข่ หมู่ 5 ต.สระประดู่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ นายอัครเดช ทองใจสด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ นายปกรณ์ ตั้งใจตรง นายอำเภอวิเชียรบุรี นางสาววนิดา จงกล รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพิษณุโลก และนายอภิชาญ สิงหเสนี สมาชิกกลุ่มอินทผลัมเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมจัดงาน “เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวฤดูฝน อินทผลัม แอนด์ บอลลูน เฟสติวัล เพชรบูรณ์”
ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 27- 31 ก.ค.65 ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เพชรบูรณ์ ข้างพุทธอุทยานเพชบุระ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เพื่อประชาสัมพันธ์ความงดงามของธรรมชาติในจังหวัดเพชรบูรณ์ช่วงฤดูฝน และเพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและคนทั่วไป รวมทั้งยังเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
ภายในงานนอกจากจะมี อินทผลัม อาโวคาโด แมคคาเดเมีย โกโก้ และสินค้า OTOP เพชรบูรณ์ กว่า 80 บูธ ให้เลือกซื้อแล้ว ยังอิ่มอร่อยกับอาหารสไตล์ฟู้ดทรัค (Foodtruck) การขี่ม้าอาชาบำบัด ชมควายปลักสีดำ-สีเผือก และวัวสายพันธุ์อเมริกันบาร์มัน การจัดโปรโมชั่น แจกแถม ฟรี “นาทีทอง” ชมการแสดงดนตรีโฟล์คซอง ของเงาเสียงศิลปิน ชิลล์! แช๊ะ! แชร์! กับบอลลูน (Ballloon) หลากสีสัน การประกวดภาพวาด และภาพถ่ายภายในงาน รวมทั้งยังชิมอินทผลัมฟรีได้ตลอดทั้งงาน
นายอัครเดช กล่าวว่า จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นจังหวัดที่มีสภาพอากาศที่ดี มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้และธรรมชาติ รวมทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งทางจังหวัดก็มีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยว จึงอยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมงานการท่องเที่ยวฤดูฝน ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 27 - 31 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นวันหยุดยาว เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ยินดีต้อนรับ
ขณะที่ นายอภิชาญ สิงหเสนี เจ้าของสวนอินทผลัมคุณไข่ เปิดเผยว่า จากสภาพดินและสภาพอากาศของจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ในสมัยโบราณเป็นล้านปีเป็นทะเลนั้น ดินจึงมีแร่ธาตุสูง ทำให้เหมาะกับการปลูกพืชผักผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้ต่าง ๆ ของจังหวัดเพชรบูรณ์
นอกจากจะมีรสชาติหวานแล้วยังมีคุณภาพดี อาทิ มะม่วง มะขามหวาน ตนจึงอยากเชิญทุกคนให้มาชิม อินทผลัมของจังหวัดเพชรบูรณ์ว่า รสชาติเป็นอย่างไร ในปีนี้สวนของตนได้ผลผลิตอินทผลัมกว่า 10 ตัน ราคามีตั้งแต่กิโลกรัมละ 300,400 และ 500 บาท ส่วนคุณภาพในปีนี้ดีมาก ลูกผลสมบูรณ์รสชาติหวานมาก นอกจากนี้ยังมีการแปรรูปอีกกว่า 10 ชนิด ซึ่งในปีนี้ หลายประเทศตื่นตัวกับอินทผลัมของประเทศไทยมาก เริ่มมีออเดอร์สั่งเข้ามา เช่น ประเทศบรูไน ประเทศเวียดนาม และประเทศกัมพูชา เป็นต้น
ภาพ - ข่าว โดย อารีย์ สีแก้ว