กลายเป็นข่าวที่สร้างความกังวลใจให้กับประชาชนชาวไทยหลายคนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องการแพร่กระจายเชื้อ และแนวทางการป้องกันไวรัสฝีดาษลิง เมื่อมีรายงานข่าวว่าไทยพบผู้ติดไวรัสฝีดาษลิง หรือ ฝีดาษวานรรายแรกในประเทศแล้ว ที่ จ.ภูเก็ต เป็นชายชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี ผลตรวจยืนยันตั้งแต่วันอังคารที่ 19 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา
ตามรายงานระบุถึง อาการฝีดาษลิง ของผู้ป่วยคนดังกล่าวเข้าไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ซึ่งตลอด 1 สัปดาห์ก่อนหน้านั้นมีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก มีผื่นแดง ตุ่มนูนแดง ตุ่มหนอง เริ่มจากอวัยวะเพศ ลามไปใบหน้า ลำตัว และแขน กระทั่งมีรายงานอีกว่า ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงชาวไนจีเรียคนดังกล่าว ได้หนีออกจาก รพ. ช่วงกลางคืน โดยได้ขับรถยนต์สีขาว ในการหลบหนี ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัว
ล่าสุดวันนี้ (22 กรกฎาคม 2565) ที่อาคารรัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณี ผู้ป่วยชาวไนจีเรียที่ติดเชื้อฝีดาษลิง ที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ต่อมาได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาล ช่วงเมื่อคืนที่ผ่าน (21 ก.ค.65) มาว่า คนไข้ฝีดาษลิงหนีออกจากรพ.
"ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ขณะนี้กำลังให้ทางตำรวจตามล่า เพราะมีการหลบหนีจากสถานรักษาพยาบาล โดยจะมีการเร่งแถลงข่าวและขึ้นรูปหน้าของผู้ป่วยที่หลบหนี ถือเป็นพฤติกรรมที่แย่มากและเป็นพฤติกรรมไม่ดี ยืนยันว่ามีบทลงโทษและจะใช้กฎหมาย ทุกอย่างที่มี รวมทั้งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)โรคติดต่อ และอาจมีการเนรเทศและถูกดำเนินคดี โดยผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวเข้ามาทางจังหวัดภูเก็ต ยืนยันว่ากำลังเร่งติดตาม โดยต้องจับกุมตัวให้ได้และขึ้นรูปทั่วทั้งประเทศ"
ส่วนการปูพรมป้องกันการแพร่เชื้อจากผู้ป่วยรายดังกล่าวนั้น อนุทิน กล่าวว่า จากที่อธิบดีกรมควบคุมโรค รายงานตนเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ทราบว่าได้มีการติดตามคนสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายดังกล่าวมากักตัว และตรวจเช็คแล้วไม่พบการติดเชื้อ และย้ำตามที่อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่าไม่ได้ติดง่ายๆ แต่ต้องเฝ้าระวัง
อย่างไรก็ตามคนป่วยฝีดาษลิงหนีออกจากโรงพยาบาล ส่วนในด้านการแพทย์ อนุทิน กล่าวว่า ตนขอไม่พูดเพราะเป็นเรื่องเฉพาะทางให้แพทย์เป็นคนพูด แต่หลังจากรับทราบก็ได้กำชับเร่งดำเนินการตามจับกุมตัวให้เร็วที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews