อัปเดตล่าสุด เผยผลตรวจ กลุ่มเสี่ยงฝีดาษลิงในไทย 19 ราย

25 กรกฎาคม 2565

อัปเดตล่าสุด เผยผลตรวจกลุ่มเสี่ยงฝีดาษลิงจำนวน 19 ราย ในประเทศไทย ให้กักตัว 21 วันแล้ว จึงเก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจห้องปฏิบัติการอีกครั้ง

ยังคงต้องจับตาอย่างต่อเนื่องสำหรับโรคฝีดาษลิงในประเทศไทย ล่าสุดวันที่ 25 ก.ค 65 นายแพทย์ กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต อัปเดตกลุ่มเสี่ยงฝีดาษลิงจำนวน 19 รายที่จังหวัดภูเก็ต กล่าวการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกรณีพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง หรือฝีดาษวานรรายแรกของไทย ที่จังหวัดภูเก็ตว่า  

เผยผลตรวจ กลุ่มเสี่ยงฝีดาษลิงในไทย 19 ราย

ผลจากการเก็บตัวอย่างผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 19 ราย ไปส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลตรวจออกมาแล้วเป็นลบแล้วทั้ง 19 ราย 

แต่เเม้ว่าในกลุ่มเสี่ยงทั้ง 19 ราย จะไม่พบผู้ป่วยฝีดาษลิงเพิ่ม อย่างไรก็ตามได้มีการติดตามอาการ อย่างใกล้ชิดโดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะโทรศัพท์สอบถามอาการทุก 7 วัน 14 วันและ 21 วัน และในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเมื่อครบการกักตัว 21 วันแล้วจะมีการเก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ อีกครั้งหนึ่ง

เผยผลตรวจ กลุ่มเสี่ยงฝีดาษลิงในไทย 19 ราย

 และขอความร่วมมือประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากโรคฝีดาษวานรติดต่อกันได้ยากกว่าโรคโควิด 19 ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการสัมผัสใกล้ชิดโดยตรงกับผู้ที่มีอาการโรคฝีดาษวานร ซึ่งมีตุ่มน้ำใสหรือตุ่มหนองที่ผิวหนังตามตัว รวมทั้งการสัมผัสเมื่อมีเพศสัมพันธ์  
การป้องกันฝีดาษวานรทำได้โดยสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้บ่อย เลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา จมูก และปาก ระวังสัตว์กัดหรือข่วน ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ไม่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยฝีดาษลิง   
 

โดยขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข เตรียมแนวทางเฝ้าระวังโรคฝีดาษวานร หลังองค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ โดยยกระดับศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรมควบคุมโรค เป็นระดับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้สามารถสั่งการเฝ้าระวังมีความครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับข้อมูลวัคซีนโรคฝีดาษคนที่องค์การเภสัชกรรมได้เก็บรักษาไว้ตามมาตรฐานเมื่อประมาณ 40 ปีก่อน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้นำมาทดสอบพบว่ายังมีคุณภาพดี 

หากมีความจำเป็นสามารถนำมาใช้ได้ ส่วนด้านการรักษาพยาบาล โรคนี้ไม่มียารักษาเฉพาะ จึงใช้การรักษาตามอาการ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะหายได้เอง  ซึ่งสถานพยาบาลทุกแห่งสามารถให้การดูแลได้ ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ป่วยอยู่ในห้องความดันลบ  และเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ ทั้งด้านการเฝ้าระวังโรค การป้องกันและการดูแลรักษา  ได้มีการสั่งการให้ด่านควบคุมโรคทั่วประเทศ

 

   ประสานงานกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้เพิ่มความระมัดระวังบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ และโรงพยาบาล คลินิกเอกชนเฝ้าระวัง ผู้ที่มีไข้ผื่นแดง ตุ่มใส ตุ่มหนอง เน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงอย่างเข้มข้น

เผยผลตรวจ กลุ่มเสี่ยงฝีดาษลิงในไทย 19 ราย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews