นักร้องประจำ เมาท์เทน บี นำดอกไม้แสดงความอาวลัย ตอบประเด็นประตูหลังร้าน
นักร้องประจำ "เมาท์เทน บี" เปิดใจหลังเหตุไฟไหม้ผับชลบุรี ตอบประเด็นล็อคประตูหลังร้าน พร้อมกล่าวถึงเจ้าของร้าน
จากเหตุการณ์ไฟไหม้ผับไฟชลบุรี "เมาท์เทน บี" (Mountain B) สถานบันเทิงเปิดใหม่ ริมถนนสุขุมวิท ซอยสัตหีบสุขุมวิท 99 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รายงานล่าสุด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 ราย ก่อนหน้านี้ พนังงานได้เผยถึงเหตุผลที่ต้องล็อคประตูหลังร้านและทางเชื่อมประตูหนีไฟ ว่า ก่อนหน้านี้เคยมีนักดนตรีแอบพาแฟนสาว เพื่อน คนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้ามาใช้บริการทางร้านหรือนั่งรอจนเลิก จนเกิดความเดือดร้อนถูกแจ้งจับดำเนินคดี
ทางร้านจึงมีการประชุมหามาตรการแก้ไขปัญหา โดยตกลงกับนักดนตรีและพนักงานในร้าน ช่วงที่นักดนตรีเข้าไปแสดง เวลา 0.30 น. การ์ดจะล็อกประตูไว้ หลังแสดงจบใน 1 ชั่วโมง จะมาเปิดกุญแจทุกคนให้ทุกคนเข้าออกได้ตามปกติ
ทางด้าน "นายธนภัทร พ่วงแพ" หรือ "พีท แต๋วแหวว" อายุ 24 ปี นักร้องประจำร้านเมาท์เทน บี ได้มาไว้อาลัยให้กับ "นายฉัตรชัย ชื่นค้า" นักร้องนำ และ "นายรังสิมันต์ วนิชโรจนาการ" มือคีย์บอร์ด ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เปิดใจระบุว่า
พีท ระบุว่า ตนนำดอกไม้มาแสดงความไว้อาลัยให้กับ พี่อิ่ม นักร้องนำที่มาทำงานแทนตน และพี่วิน มือคีย์บอร์ด ตนไม่ทราบเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเลย จึงอยากขอโทษ และ แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนขอเป็นกำลังใจให้กับพี่ๆ นักดนตรีอีก 3 คนที่กำลังรักษาตัวอยู่ ขอให้สู้กับบาดแผลและหายเร็วๆ
และยังได้ตอบคำถามถึงเรื่องประตูหลังร้านที่หลายคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น ว่า ตนในฐานะของนักดนตรีที่เล่นประจำที่เมาท์เทน บี ทุกวันพฤหัสบดี ประตูทางเข้าข้างหลังประตูแรกจะเป็นประตูบ้านสีขาว และเดินเข้าไปด้านใน จะเป็นประตูกระจก ตนไม่ทราบว่าวันเกิดเหตุและช่วงระหว่างขึ้นแสดงประตูล็อกหรือไม่
"ปกติทุกครั้งที่จะเข้าหลังร้าน ผมจะต้องบอกให้การ์ดของที่ร้านมาเปิดประตูทั้งสองบานเนื่องจากว่ามันจะล็อกตลอด ไม่ได้มีการเปิดประตูเอาไว้เพื่อให้นักดนตรีเดินออกไปสูบบุหรี่หรือพักผ่อนเลย"
เมื่อถามถึงสาเหตุที่ว่าทำไมต้องล็อกประตู พนักงานให้คำตอบว่า กลัวว่าลูกค้าจะแอบหนีไม่ยอมจ่ายเงิน ก็เลยจำเป็นต้องล็อกเอาไว้ ทั้งนี้ ตนเชื่อเซนส์ของพี่ๆ นักดนตรีทุกคน ว่าเขาเข้าทางไหนก็จะต้องออกทางนั้น โดยเฉพาะนักดนตรีที่มาแทนจะเข้าทางประตูหลังตลอด
ทาง พีท ยังบอกอีกว่า ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้เอะใจว่าจะเกิด เหตุการณ์แบบนี้ คิดแค่ว่า ถ้าหากลูกค้าตีกันนักดนตรีจะออกยังไงเท่านั้น เพราะว่าไม่กี่เดือนก่อนเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาตนไม่เคยรู้ว่าทางร้าน มีการเช็กความปลอดภัยของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน ตนเคยได้กลิ่นไหม้บนเวที แต่ไม่ทราบว่าเป็นกลิ่นบุหรี่หรือกลิ่นอะไรกันแน่จึงไม่ได้สอบถามต่อ
"ตั้งแต่ที่ร้องเพลงมาไม่ได้สังเกตเลยว่า ภายในสถานบันเทิงมีป้ายสัญลักษณ์ประตูหนีไฟหรือถังดับเพลิงหรือไม่ มาทราบชัดเจนก็ตอนที่เห็นคลิปในโซเชียลเท่านั้น ซึ่งเคยได้พูดคุยกับเจ้าของร้าน เขาก็พูดคุยกับผมอย่างอัธยาศัยดี แต่ไม่ทราบว่าเป็นคนมีสีหรือไม่"
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews