ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ทราบ ผับอยู่ในพื้นที่ของเทศบาลเมืองสัตหีบ การขออนุญาตก่อสร้างจึงต้องขอกับ นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ ผับแห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 522 ตารางเมตร เป็นอาคารแบบ ค. ต้องมีทางเข้าออกอย่างน้อย 4 จุด การขออนุญาตได้ขอแบบไม่ถูกต้อง และพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่เฉพาะ เนื่องจากอำเภอสัตหีบเป็นพื้นที่ความมั่นคงทางทหารเรือ การขออนุญาตปลูกสร้างไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน หรือสถานประกอบการ ต้องขอทางฐานทัพเรือสัตหีบ ให้เป็นผู้ออกใบอนุญาตร่วมกับกองช่าง เทศบาลเมืองสัตหีบ ด้วยเหตุนี้ ฐานทัพเรือสัตหีบจึงต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับความกับการสูญเสียในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่า เจ้าของผับแห่งนี้ เคยถูกจับกุมฐานลักลอบเปิดบ่อนการพนันที่บริเวณหลังโรงพักพลูตาหลวง ก่อนจะมาเปิดบริการผับแห่งนี้ ขอให้ทางผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบดูว่า จริงเท็จประการใด
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ คงไม่ใช่แค่ 5 เสือ โรงพักพลูตาหลวง หรือนายอำเภอสัตหีบ ที่ได้ถูกย้าย การจะเปิดผับที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีต้องรับทราบ ก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบด้วย รวมทั้งผู้การจังหวัดชลบุรี จะบอกไม่รู้ไม่เห็นแล้วย้ายลูกน้อง ดูแล้วไม่เหมาะสมเท่าไหร่ คนตายถึง 15 คน และบาดเจ็บ 39 คน
ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ ยังกล่าวถึงการเยียวยา ว่า ส่วนราชการต้องแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือกระทรวงมหาดไทย โดยจังหวัดชลบุรี เทศบาลเมืองสัตหีบ และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ต้องร่วมกันรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิต รายละ 3 ล้านบาท ส่วนที่บาดเจ็บรายละ 1.5 - 2 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณทางราชการ เยียวยาหลังจากนี้ ส่วนเรื่องการกระทำความผิดนั้น ผิดตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายอำเภอสัตหีบ ฝ่ายปกครอง และตำรวจในระดับจังหวัดชลบุรี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงทหารเรือ เพราะอยู่ในพื้นที่ด้านความมั่นคง ฐานทัพเรือสัตหีบ ตนเองในฐานะกรรมาธิการการทหาร จะตรวจสอบเรื่องการจ่ายส่วยว่ามีหรือไม่ โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในการประชุม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป
ภาพ - ข่าว โดย ณัฐภูมินทร์ – พัชรพล ปานรักษ์ สำนักข่าวเนชั่น อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี